ครม.เห็นชอบ ยกเว้นตรวจวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย เพิ่มเติม

20 พฤศจิกายน 2561, 16:57น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี  (ครม.) นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ กำหนดสิทธิการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่เกิน 15 วัน (Visa on Arrival-VOA) เพิ่มเติมแก่ เม็กซิโก วานูอาตู นาอูรู จอร์เจีย และเห็นชอบสิทธิยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวพำนักไม่เกิน 30 วัน (ผ.30) แก่ ลัตเวีย ลิทัวเนีย อันดอร์รา ซานมารีโอยูเครน มัลดีฟส์และมอริเซียส พร้อมยกเลิกการให้สิทธิขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่เกิน 15 วัน แก่คนชาติโอมาน เช็ก ฮังการี โปแลนด์ ลิกเตนสไตน์เอสโตเนีย สโลวัก ลัตเวีย ลิทัวเนีย ซานมารีโอ อันดอร์รา ยูเครน มัลดีฟส์และมอริเชียส ให้เหลือเพียงสิทธิยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวพำนักไม่เกิน 30 วัน โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องกำหนดรายชื่อประเทศที่จะขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองเพื่อปรับปรุงรายชื่อประเทศที่ได้รับสิทธิต่อไป



ที่ประชุมยังเห็นชอบการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ.) จะรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากพื้นที่แหล่งผลิตสำคัญ คือ กระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร จำนวน 160,000 ตัน ในกิโลกรัมละ 18 บาท นำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงงานไฟฟ้าบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่จะเป็นเชื้อเพลิงกระแสไฟฟ้าได้ 576 ล้านหน่วย ทั้งนี้ กฟผ. ขอรับเงินชดเชยส่วนต่างระหว่างต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงกับรายได้จากการขายกระแสไฟฟ้าในวงเงิน 525 ล้านบาท โดยกรมการค้าภายในเป็นหน่วยงานเบิกจ่ายเงิน นอกจากนี้ยังเห็นชอบมาตรการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 300,000 ตัน เป็นเวลา 5 เดือนไม่เกินกิโลกรัมละ 1.75 บาท ซึ่งผู้ส่งออกจะต้องรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในประเทศไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 19 บาท โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการบริหารและกำกับดูแลมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ  พิจารณาให้สอดคล้องกับการอนุมัติงบกลางและสถานการณ์การผลิตการตลาดที่ปรับเปลี่ยนต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X