นายกฯยันไม่ปกป้องใคร ต้องหาข้อเท็จจริงคดีน้องเมย/หุ้นไทยร่วงหลุด1700จุด/นิติเวช พิสูจน์14ศพรถตู้ชนรถบรรทุกที่จ.สิงห์บุรี

24 พฤศจิกายน 2560, 18:48น.


+++การเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ หลายหน่วยงานที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยทหาร ได้เร่งเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำแล้ว คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายใน 2-3 วันนี้ 



+++ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังได้ประสานแจ้งเตือนให้จังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากลมมรสุม ที่พัดผ่านพื้นที่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะรุนแรง



+++พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิต และขอโทษแทนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย หากทำให้ประชาชนรู้สึกไม่สบายใจ ยืนยันว่า ไม่ต้องการปกป้องใคร เพราะหากปกป้องอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ก็คงหาความสุขไม่ได้เช่นกัน ขณะนี้กำลังพยายามหาข้อเท็จจริงทั้งทางลับและเปิดเผย เพราะไม่อยากให้กระทบต่อการสอบสวน



+++นายกฯ เน้นย้ำว่า เราสูญเสียหนึ่งชีวิตที่มีคุณค่าของชาติ โดยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันระมัดระวังเรื่องเหล่านี้ โดยหน่วยฝึกของทุกกองทัพจะต้องดูแลเอาใจใส่ให้ดี มีความรับผิดชอบต่อทุกชีวิตเช่นคนในครอบครัว และอย่าทำสิ่งใดเกินเลยเด็ดขาด



+++พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งจากแพทย์ ครอบครัว อาจารย์ รุ่นพี่ เพื่อนของผู้เสียชีวิต และผู้เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งกระบวนการ โดยจะแสวงหาความจริงให้ได้ และจะต้องมีผู้รับผิดชอบหากมีการกระทำที่ไม่ถูกต้องจริง จึงขอวิงวอนให้สังคมเข้าใจและให้เวลากับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งหยุดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเกินเลย เพราะไม่เป็นผลดีแก่ผู้ใด โดยเฉพาะจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสียในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทางกองทัพได้มีคำสั่งให้นายทหารที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลนักเรียนเตรียมทหารไปปฏิบัติหน้าที่อื่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและประชาชนเกิดความสบายใจ



+++ผลการสอบสวนของคณะกรรมการชุด พล.ต.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นการตรวจสอบ 2 กรณี คือ กรณีนายภคพงศ์ ถูกรุ่นพี่ซ่อม เมื่อ 2 เดือน ก่อนเหตุการณ์เสียชีวิตในวันที่ 17 ต.ค. จนทำให้หยุดหายใจไปชั่วขณะและแพทย์ได้ทำการปั้มหัวใจ จนกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า เป็นการทำเกินกว่าเหตุ จึงได้สั่งลงโทษผู้เกี่ยวข้องและครอบครัวนายภคพงศ์ ไม่ติดใจเอาความ



+++กรณีที่ 2 คือเหตุการณ์วันที่ 17 ต.ค. ที่ทำให้นายภคพงศ์ เสียชีวิต จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่จับภาพได้ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร  รวมถึงสอบถาม เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อน ๆ ของนายภคพงศ์ พล.ต.กนกพงษ์ ระบุในผลการสอบสวนว่า ยังไม่พบว่ามีผู้ใดไปทำร้าย นายภคพงศ์  จนเสียชีวิต ก่อนจะส่งศพไปชันสูตรและแพทย์ลงความเห็นว่า เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน  ซึ่งผลการสอบสวนทั้งหมดนี้ได้ส่งให้กับผู้บัญชาการทหารสูงสุด



+++พ.ต.อ.ชัชวาลย์ แก้วจันดี รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม ในฐานะโฆษก บก.ภ.จว. นครพนม เปิดเผยหลังจากออกจากห้องประชุมว่า ในคดีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร และเรื่องของนายสับ วาปี ว่าขณะนี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น พนักงานสอบสวน กำลังพิจารณาข้อกฎหมายเพิ่มเติมอยู่ ในการกระทำความผิดทั้งภาพรวมในชั้นศาลและชั้นพนักงานสอบสวนตาม สภ.ต่างๆ ที่ไปแจ้งความไว้ ตำรวจกำลังประมวลเรื่องทั้งหมด  จึงไม่ได้นำตัวนายสับ ส่งศาลจังหวัดนครพนม  ต้องรอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนให้เสร็จและรัดกุม มีความละเอียดรอบคอบมากกว่าปกติ ส่วนนางจันทร์ วาปี ภรรยาของนายสับ  ได้สอบปากคำในฐานะพยาน ให้การเป็นประโยชน์การสอบสวนมีรายละเอียดมาก 



+++หลังจากเจ้าหน้าที่ร่วมกันนำร่างผู้เสียชีวิต 14 ศพจากอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถบรรทุก  ที่จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อช่วงเช้ามืด ส่งให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ผ่าชันสูตรพลิกศพ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล และหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง 



พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ทั้ง 14 ศพ เป็นคนขับรถชาวไทย 1 คน ชื่อนายปฐมพัฒน์ พันธ์ผล เป็นผู้โดยสารชาวเมียนมา 13 คน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นบุคคลใด ต้องรอการพิสูจน์เปรียบเทียบดีเอ็นเอกับญาติผู้เสียชีวิตก่อน 



+++ส่วนทางคดี พนักงานสอบสวนและกองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบซากรถ พบเอกสารการขนส่งแรงงานต่างด้าว ส่วนรถตู้คันดังกล่าวเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุญเรือนทัวร์ ที่รับงานขนส่งแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย โดยเอกสารระบุจะนำแรงงานกลุ่มนี้เดินทางจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไปส่งให้นายจ้างที่จังหวัดสมุทรปราการ จึงเชื่อว่าเป็นการรับส่งแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ขบวนการลักลอบขนส่งแรงงานต่างด้าว 



ขณะที่พนักงานสอบสวนได้ประสานข้อมูลไปยังสถานฑูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อขอข้อมูลว่าผู้ตายเป็นชาวเมียนมาตามที่มีเอกสารขนส่งแรงงานระบุหรือไม่ พร้อมขอให้มีการแจ้งญาติผู้เสียชีวิต เพื่อนำดีเอ็นเอมาเปรียบเทียบ พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ร่องรอยการเฉี่ยวชน เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติที่แท้จริง รวมถึงประสานกรมการขนส่งทางบก เพื่อดูข้อมูลว่า รถตู้ปฏิบัติตามระเบียบมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบกหรือไม่ เนื่องจากเคยมีคดีอุบัติเหตุคล้ายลักษณะนี้มาแล้วบนถนนมอเตอร์เวย์



+++ตลาดหุ้นไทยวันนี้ มีความผันผวนในแดนลบ เพราะถูกแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ กดดันตลาด ส่งผลให้ดัชนีระหว่างวันปรับตัวลดลงหลุด 1,700 จุด หลังจากที่ผ่านมาดัชนีได้ปรับตัวขึ้นไปสูง ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,695.84 จุด ลดลง 11.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56,519.98 ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดบวกในวันนี้ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งได้ช่วยลดแรงกดดันจากการเทขายที่สืบเนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินเยน ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 27.70 จุด ที่ 22,550.85 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการควบคุมความเสี่ยงทางการเงินของจีน ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 158.38 จุด ปิดวันนี้ที่ 29,866.32 จุด

+++รอยเตอร์ รายงานว่าศาลอุทธรณ์สูงสุดของแอฟริกาใต้มีคำพิพากษาเพิ่มโทษจำคุกนายออสการ์ พิสตอเรียส นักวิ่งขาเหล็กชื่อดัง เป็นจำคุกรวม 13 ปี 5 เดือน หลังพนักงานอัยการในฐานะโจทก์ยื่นอุทธณ์คัดค้านว่าการพิพากษาจำคุก 6 ปีของศาลชั้นต้น ถือว่าเป็นอัตราโทษที่เบาเกินไป ก่อนหน้านั้น นายพิสตอเรียส ถูกจำคุกเมื่อเดือนกรกฏาคมปีก่อน หลังถูกศาลชั้นต้นตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมน.ส.รีวา สตีนแคมป์ แฟนสาวเสียชีวิตในบ้านพักของเขาในกรุงพริทอเรียในคืนวันวาเลนไทน์ปี 2556 นับเป็นอีกหนึ่งคดีที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก



+++สำหรับการอ่านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ในวันนี้ นายพิสตอเรียสไม่ได้เข้าฟังคำตัดสิน บีบีซีรายงานอ้างโฆษกครอบครัวของน.ส.สตีนแคมป์ว่าครอบครัวรู้สึกพอใจกับผลการตัดสินของศาลอุทธรณ์ว่าเหมาะสมและยุติธรรมแล้ว



CR:เจ้าหน้าที่มูลนิธิ

ข่าวทั้งหมด

X