สปสช.เผยทุจริตบัตรทอง 3 ล็อต 188 แห่ง ประชาชนรับผลกระทบเพิ่มอีกเกือบ 1 ล้านคน เสียหาย 195 ล้านบาท

22 กันยายน 2563, 20:30น.


          ปัญหาหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุขเกินจริง ทำให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ยกเลิกสัญญา 64 คลินิก-รพ.เอกชนด้วยเหตุทุจริต นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.)ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า เบื้องต้นพบว่าได้มีการนำสิทธิประชาชนมาแอบอ้างเบิกค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้อง โดยประชาชนไม่ได้เข้าใช้บริการจริง ซึ่งเป็นการจงใจสร้างหลักฐานเท็จขึ้นเพื่อเบิกเงินจาก สปสช.ถือว่าเป็นการทุจริต เป็นความผิดอาญา ได้แจ้งให้สปสช.แจ้งความร้องทุกข์กับกองปราบปรามฯในล็อตที่ 3 เพิ่มอีก 106 แห่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบการทุจริตและแจ้งความแล้ว 2 ล็อต โดยล็อตที่ 1 จำนวน 18 แห่ง และล็อตที่ 2 จำนวน 64 แห่ง รวมขณะนี้ 3 ล็อตตรวจสอบพบทุจริตแล้ว 188 แห่ง 



          จากการตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายทั้งหมดยืนยันไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใครหรือเลือกปฏิบัติ แต่เป็นการทำเพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของประชาชนและปกป้องประโยชน์ของรัฐ เพราะจากการตรวจสอบพบรูปแบบการทุจริตที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจน เช่น อ้างชื่อคนเพื่อเบิกเงินทั้งที่บุคคลนั้นไม่ได้เข้ารับการรักษา หรือการสร้างชื่อพนักงานบริษัทขึ้นมาจำนวนหนึ่ง เพื่อมาเบิกจ่ายแต่กลับพบว่ารายชื่อนั้นไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัท นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบคลินิกทันตกรรมให้การรักษาบริการไม่ถูกต้องอีก 7 แห่งด้วยและอยู่ระหว่างการตรวจสอบทั้งระบบเช่นกัน



          นอกจากนี้ สปสช.จะดำเนินการเรียกค่าเสียหายคืนทั้งหมด หากไม่คืนก็จะมีการฟ้องเรียกค่าเสียหายและสปสช.มีความจำเป็นต้องยกเลิกสัญญาการเป็นหน่วยบริการที่พบการทุจริตทั้ง 188 แห่ง เนื่องจากในสัญญาระหว่างสปสช.กับหน่วยบริการมีการเขียนข้อสัญญาไว้ชัดเจนว่า ถ้ามีการเบิกเท็จหรือไม่ถูกต้อง สปสช.มีอำนาจต้องยกเลิกสัญญา เพราะฉะนั้นสปสช.ต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้ หากไม่ดำเนินการก็จะเข้าข่ายละเว้นไม่ปฏิบัติตามสัญญา



          ด้านนพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ในส่วนการตรวจสอบพบทุจริตในล็อตที่ 3 จำนวน 106 แห่ง มีประชาชนที่จะได้รับผลกระทบอีกราว 9 แสน ถึง 1 ล้านคนอยู่ระหว่างการประสานและดำเนินการเพื่อหาหน่วยบริการรองรับ ส่วนมูลค่าความเสียหายรวมทั้ง 3 ล็อตเป็นเงิน 195 ล้านบาท โดยทั้ง 188 แห่ง สปสช.ได้เนินการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาที่กองปราบปรามฯและกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอแล้ว แยกรายละเอียด โดยรายหน่วยบริการ ได้ฟ้องร้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายคืน ยกเลิกสัญญาการเป็นหน่วยบริการ แจ้งสภาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และแจ้งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)กระทรวงสาธารณสุขเข้าตรวจสอบตามกฎหมายสถานพยาบาล รวมทั้ง จะมีการขยายผลตรวจสอบย้อยหลังปี 10 ปีตั้งแต่ปี 2555-2561 ในช่วงที่มีการดำเนินโครงการนี้ด้วย



          สำหรับการดูแลผู้อยู่ในสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบจากการตรวจพบการทุจริตในล็อตที่ 1 ยกเลิกสัญญา 18 แห่ง กระทบราว 2 แสนคนนั้นได้ดำเนินการจัดหาให้เข้าสู่หน่วยบริการแล้ว ส่วนล็อตที่ 2 ยกเลิกสัญญา 64 แห่ง กระทบราว 8 แสนคนนั้น แบ่งดำเนินการเป็น 3 ส่วน ได้แก่



1.โรคที่ต้องอาศัยรพ.ในการดูแล เช่น ผ่าตัด คลอดบุตร ล้างไต ซึ่งมีรพ.ถูกยกเลิกสัญญา 6 แห่ง สปสช.ได้ดำเนินการประสานไปยังผู้ป่วยเพื่อแจ้งสถานพยาบาลที่จะได้รับบริการให้ทราบแล้ว และโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 090-197-5271 หากยังมีข้อสงสัย 



2.กลุ่มโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ที่ต้องได้รับการดูแลสม่ำเสมอส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สปสช.ได้ประสานสำนักอนามัย กรุงเทพมหานครในการดูแลผู้ป่วยในระยะสั้นก่อนแล้ว โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขกรุงเทพมหานครทั้ง 69 แห่ง ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ซึ่งสปสช.ได้ส่งข้อมูลประวัติผู้ป่วยให้ศูนย์ในพื้นที่แล้ว



และ 3. โรคทั่วๆไป อาการเจ็บป่วยที่ไม่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง เข้ารับบริการผู้ป่วยนอก ขณะนี้จะถือว่าเป็นสิทธิว่างได้รับวีซ่าพิเศษหากเจ็บป่วยสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการบัตรทองได้ทั้งของรัฐและเอกชนที่ใดก็ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะหน่วยบริการจะเบิกมายังสปสช.เอง ทั้งนี้ได้ส่งหนังสือถึงหน่วยบริการต่างๆทราบแล้ว 



          เลขาธิการ สปสช. ย้ำว่า การดำเนินการตรวจสอบพบทุจริตและยกเลิกสัญญาเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น อีก 76 จังหวัดไม่ต้องกังวลยังใช้บริการมีสิทธิบัตรทองของประชาชนอยู่ครบเหมือนเดิมและจะมีการพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นตามสิทธิประโยชน์ที่จะเพิ่มขึ้น และกรณีผู้ได้รับผลกระทบที่อยู่ในกทม.หากได้รับการจัดหน่วยบริการใหม่ให้แล้วพบว่าไม่เหมาะสม สามารถเปลี่ยนเป็นหน่วยบริการที่ใกล้ได้ ขณะนี้สปสช.อยู่ระหว่างการเปิดรับหน่วยบริการรองรับในพื้นที่กทม.เพิ่มเติม

ข่าวทั้งหมด

X