คลังพิจารณารายละเอียดเพิ่ม เลื่อนโครงการคนละครึ่ง-เบี้ยยังชีพเข้าครม.

22 กันยายน 2563, 16:06น.


         หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ได้มีมติรับมาตรการคนละครึ่ง ล่าสุด นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมรับทราบถึงแนวทางการดำเนินโครงการคนละครึ่งแจกเงิน 3,000 บาท แต่ยังไม่ได้มีการพิจารณา ที่ประชุมได้ให้กระทรวงการคลังกลับไปพิจารณาและสรุปรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนเสนอที่ประชุมพิจารณาในสัปดาห์หน้า



          ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คลังได้เลื่อนเสนอมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศเข้าครม. ทั้งโครงการคนละครึ่งจ่ายเงินคนละ 3,000 บาท  และโครงการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคนละ 1,500 บาท ไปเป็นวันที่ 29 ก.ย.63  เนื่องจากคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ได้ขอพิจารณารายละเอียดเพิ่ม โดยทั้ง 2 โครงการจะเริ่มทำทันตามกำหนดเดิมแน่นอน โดยจะเปิดให้ร้านค้าเข้ามาลงทะเบียนได้วันที่ 1 ต.ค.63  ส่วนประชาชนที่มีอายุ  18 ปีขึ้นไปก็จะมาลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.63 ตามเดิม



          ที่ประชุมในวันนี้ยังเห็นชอบโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่ โดยภาครัฐและเอกชน รวมวงเงิน  19,462 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาจบการศึกษาใหม่ 2.6 แสนคน จ่ายเงินอุดหนุนเงินเดือนให้ร้อยละ 50 ไม่เกิน 7,500 บาทต่อเดือนต่อคน เป็นระยะเวลา 12 เดือน โดยจะสนับสนุนเฉพาะนายจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมเท่านั้น และนายจ้างจะต้องเป็นผู้จ่ายเงินเดือนอีกร้อยละ 50 จากยอดเงินเดือน 15,000 บาท



           นอกจากนี้ ได้อนุมัติโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่เสียชีวิตเพื่อจ่ายเงินให้เกษตรกรที่รับช่วงต่อจากผู้เสียชีวิตรวม 5,278 ราย พร้อมให้ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินถึง 30 กันยายนนี้ โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้พิจารณาในการดำเนินโครงการ



          ที่ประชุมเห็นชอบให้ใช้วงเงินจากงบกลางรายจ่ายจำเป็นกรณีฉุกเฉินวงเงิน 677 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินเดือนพิเศษ 7 เดือน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยได้รับเงินพิเศษ 500 บาทต่อเดือนเพิ่มเติม ส่วนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจ่ายเพิ่ม 300 บาทต่อเดือน โดยในโครงการนี้มีผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวรวมกว่า 273,000 คน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในช่วงการปฏิบัติหน้าที่ช่วงการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19



         นอกจากนี้ ที่ประชุมอนุมัติขยายระยะเวลาการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ออกไปอีก 1 ปี ถึงเดือนกันยายน 2564 เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับประชาชนจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19

ข่าวทั้งหมด

X