การพิจารณาโครงการคนละครึ่งและการเพิ่มเบี้ยยังชีพ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติโครงการดังกล่าวแล้วเพื่อสนับสนุนให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เกิดการบริโภค เพิ่มกำลังซื้อและลดค่าครองชีพ เมื่อมีการจับจ่ายใช้สอย พ่อค้าแม่ค้าจะสามารถนำไปต่อยอด โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้าขายปลีก โดยเน้นย้ำว่าทุกคนจะต้องเข้าถึง E-wallet และคิวอาร์โค้ด เพื่อที่จะได้รับเงินจากงบประมาณโดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ทั้ง 2 โครงการไม่ใช่การสนับสนุนผู้มีรายได้สูง
นอกจากนั้น ที่ประชุม ครม.ยังได้อนุมัติวันหยุดเพิ่มในช่วงเดือนพ.ย.วันที่ 19-22 พ.ย. 2563 ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว แต่แม้จะเป็นวันหยุดจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยปฏิบัติหน้าที่และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ตามปกติ ส่วนข้อเสนอให้หยุดในเดือน ต.ค.นี้ ไม่จำเป็น เพราะมีวันหยุดยาวอยู่แล้ว
สำหรับการต่ออายุพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด -19 เพราะขณะนี้ทุกคนทราบดีว่า การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเพราะกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุขไม่เพียงพอที่จะบูรณาการหน่วยงานทุกส่วนให้ปฏิบัติในมาตรฐานเดียวกัน พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเรื่องอื่นๆตามที่ออกมาพูดกัน
สำหรับคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา พล.อ.ประยุทธ์ กำชับให้ตำรวจไทยได้ประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อประสานติดตามตัว หากพบตัวจะต้องส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป พร้อมได้กำชับไปยังหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและขอให้ติดตามความคืบหน้าทางคดีจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)