นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเปิดเผยว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเรื่องการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธให้กับอิหร่าน พร้อมทั้งคว่ำบาตรกระทรวงกลาโหมอิหร่าน,สำนักงานสรรพาวุธ,องค์การอุตสาหกรรมกลาโหมอิหร่านและผู้บริหารองค์กร
นอกจากนั้น สหรัฐฯคว่ำบาตรรัฐบาลประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอลาซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับอิหร่าน เพื่อกดดันอิหร่านให้เข้าสู่โต๊ะเจรจาและยอมรับข้อตกลงต่างๆเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมไปในทางที่ถูกต้องต่อไป ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังนายทรัมป์แถลงเมื่อวันเสาร์ที่แล้วว่าสหรัฐฯจะคว่ำบาตรอิหร่านตามมติสหประชาชาติซ้ำอีกครั้ง หลังระงับมาตรการนี้ชั่วคราวในปี 2558 โดยสหรัฐฯได้แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี)เพื่อทราบแล้วว่าสหรัฐฯจะเริ่มต้นขั้นตอนการคว่ำบาตรอิหร่าน รวมถึงมาตรการห้ามขายอาวุธให้กับอิหร่านในเร็วๆนี้
แต่รัฐสมาชิกยูเอ็นเอสซี ส่วนใหญ่เห็นว่าสหรัฐฯไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะดำเนินการเรื่องนี้เนื่องจากสหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯและมหาอำนาจของโลกอีก 5 ประเทศ รวมทั้งรัสเซียและจีนตกลงกับอิหร่านในปี 2558 นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ารัสเซียและจีนจะยกประเด็นนี้มาคัดค้านสหรัฐฯในที่ประชุมยูเอ็นเอสซีต่อไป
ด้านนายจาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านกล่าวถึงท่าทีของสหรัฐฯครั้งนี้ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยนายซาริฟกล่าวในการประชุมออนไลน์ซึ่งจัดประชุมโดยสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ ระบุว่าเขาไม่คิดว่าการคว่ำบาตรรอบใหม่ของสหรัฐฯจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจอิหร่าน
Cr: NHK, US News and World report