สำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติด หรือ UNODC เผยแพร่บทความผ่านเว็บไซต์สหประชาชาติในวันนี้ (20 ก.ย.) ระบุว่า นางกีต้า ซับบระวาล (Mrs.Gita Sabharwal UN Resident Coordinator in Thailand) ผู้ประสานงานสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย และ นายเจเรมี ดักลาส (Jeremy Douglas UN Office on Drugs and Crime : UNODC in Southeast Asia and the Pacific) ผู้แทน UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อติดตามการทำงานปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเมื่อเร็วๆ นี้ และได้พบกับคณะทำงานจากเมียนมาและลาว
UNODC ระบุว่า ประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการต่อสู้กับการค้าฝิ่นในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาและมีแนวปฏิบัติที่ดีในระดับโลก ในการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่ง UNODC มีความร่วมมือระยะยาวกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อต่อต้านการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ และจากการสังเกตการณ์ที่ฐานดอยช้างมูบยังพบว่ามีการลาดตระเวนร่วมกันเป็นประจำเพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวของกลุ่มอาชญากรรม แต่บริเวณชายแดนระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขงมีการผลิต การค้าและการใช้ยาเสพติดโดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพติดสังเคราะห์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมาก โดยในปี 2561 ปริมาณยาบ้าที่ยึดได้มีปริมาณถึง 140 ตัน ส่วนใหญ่ผลิตในรัฐฉานของเมียนมาและคาดกันว่าการผลิตและการค้ายาเสพติดในภูมิภาคเมื่อปีที่แล้วมีมูลค่ามากกว่า 71,000 ล้านดอลลาร์โดยเป็นยาบ้ามูลค่า 61,000 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 4 เท่าของเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และเป็นรายได้หลักขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่เพื่อควบคุมเขตการปกครองตนเอง ซึ่งมีความขัดแย้งและความไม่มั่นคงในประเทศและตามแนวพรมแดนรวมถึงประเทศไทย
นอกจากนี้ การที่ราคายาบ้าในประเทศไทยลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบทศวรรษ ทำให้จำนวนผู้ใช้ยาบ้าเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน เมื่อพิจารณาถึงร้อยละ 80 ของประชากรไทยที่ถูกคุมขังเนื่องจากข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาบ้าในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นความท้าทายที่รุนแรงขึ้นต่อกระบวนการยุติธรรมในประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่า เครือข่ายอาชญากรมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว มีการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้น จับกุม
อย่างไรก็ตาม UNODC มีความประทับใจการทำงานของไทยด้านการพัฒนายกระดับวิถีชีวิตในภูมิภาคที่มีความยั่งยืน ซึ่งแม้ว่าจะมีความท้าทายมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดของโควิด-19 แต่ก็ยังมีความมุ่งมั่นของชุมชนในการสร้างความร่วมมือเพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง การสนับสนุนเหล่านี้จะช่วยให้ชุมชนที่ได้รับผลกระทบทั้งในประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่น ๆ สามารถถอยห่างจากการค้ายาเสพติดไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความยั่งยืน
...
https://news.un.org/en/story/2020/09/1071192