กระทรวงสาธารณสุขจัดระบบด้านการแพทย์และสาธารณสุขรองรับการชุมนุมวันที่ 19-20 กันยายน 2563 โดยมีการตั้งจุดคัดกรอง เตรียมหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ และขอให้ทุกคนสวมหน้ากาก เขียนโรคประจำตัวและยาจำเป็นติดกระเป๋า เพื่อร่วมกันป้องกันควบคุมโรคโควิด-19
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวว่า ในการชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 25,000 -50,000 คน จึงมีการเตรียมความพร้อม 3 ด้าน การควบคุมและป้องกันโรค ทั้งโรคโควิด-19 โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ และปัญหาสุขภาพจิต ด้านการดูแลรักษาเบื้องต้นในพื้นที่ และการส่งต่อรักษาพยาบาลเมื่อมีอาการรุนแรง
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ประเทศไทยยังไม่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุขจึงมีความห่วงใยผู้ชุมนุมว่าอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการมีคนมาอยู่รวมกันจำนวนมากและไม่สามารถรักษาระยะห่างกันได้ จึงขอให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมประเมินตนเอง หากมีอาการเจ็บป่วยเป็นไข้ ขอความร่วมมือไม่เข้าร่วมการชุมนุม
ส่วนในเรื่องการดูแลรักษาเบื้องต้นในพื้นที่ มีการจัดจุดบริการเป็นหน่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นในการดูแล แต่หากมีอาการมากขึ้น เกิดอาการทางหัวใจ หรืออาการที่ประเมินว่ามีความรุนแรง ขอให้ติดต่อจุดบริการเพื่อส่งทีมเข้าไปดูแลช่วยเหลือ โดยมีการจัดระบบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่จัดเตรียมไว้ 20 แห่ง แบ่งเป็น โรงพยาบาลรัฐ 10 แห่ง เช่น โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลราชวิถี เป็นต้น และโรงพยาบาลเอกชน 10 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช โรงพยาบาลมิชชั่น โรงพยาบาลเจ้าพระยา โรงพยาบาลพญาไท 1 โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลพญาไท 3 โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน โรงพยาบาลหัวเฉียว โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ และโรงพยาบาลธนบุรี โดยผู้ป่วยสามารถใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ป่วยจำนวนมากกรณีมีความรุนแรงเกิดขึ้น กระทรวงสาธารณสุขจัดเตรียมหน่วยบริการของเขตสุขภาพที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานครรองรับเข้ามาช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ชุมนุมโดยสงบ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อหรือติดเชื้อเกิดขึ้น ขอให้อยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ มีการตั้งกรุ๊ปไลน์ระหว่างกัน หากมีการติดเชื้อสามารถช่วยเหลือดูแล ติดตาม และควบคุมโรคได้ง่ายขึ้น เป็นการชุมนุมอย่างปลอดภัยกับทุกคน
...