พนักงานอัยการเมืองโคโลญจ์ เยอรมนี เปิดเผยว่า ตำรวจเริ่มสอบสวนกรณีแฮกเกอร์โจมตีทางไซเบอร์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยดึสเซิลดอร์ฟ(Düsseldorf University Hospital)เมื่อวันที่ 9 กันยายน เพื่อล้วงข้อมูลและทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลล่ม ใช้การไม่ได้ ทำให้แพทย์ต้องย้ายผู้ป่วยหญิงคนหนึ่ง ซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินออกจากโรงพยาบาลนั้นไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในเมืองวัปเพอทาล(Wuppertal)ซึ่งอยู่ห่างไปราว 30 กม. ทำให้เธอเสียชีวิตขณะเดินทาง
พนักงานสอบสวนของเยอรมนี ระดมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของระบบไซเบอร์เพื่อดูว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างการโจมตีเพื่อล้วงข้อมูลโดยแฮกเกอร์กับการเสียชีวิตของหญิงดังกล่าวหรือไม่ พร้อมทั้งสอบสวนแพทย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเช่นกัน ถ้าพบว่า มีความเชื่อมโยงกันพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีกับแฮกเกอร์ต่อไปในความผิดฐานทำให้คนตายโดยประมาท
ด้านผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งกล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงจะเป็นคดีแรกในเยอรมนีที่มีคนเสียชีวิตจากการโจมตีทางไซเบอร์ของกลุ่มแฮกเกอร์ นับเป็นหนึ่งในภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงทางไซเบอร์ของเยอรมนี มีโรงพยาบาลหลายแห่งถูกโจมตีในลักษณะนี้ในปีนี้ ส่วนมากคนร้ายต้องการค่าไถ่ในรูปเงินบิตคอยน์ หรือเงินดิจิทัล แลกกับกุญแจซอฟท์แวร์เพื่อปลดล็อคระบบไอที ที่ผ่านมาตำรวจเยอรมนีเตือนผู้เสียหายจากการโจมตีทางไซเบอร์ไม่ให้จ่ายค่าไถ่ให้กับคนร้าย ระบุว่าการจ่ายค่าไถ่จะยิ่งทำให้เครือข่ายอาชญากรรมประเภทนี้มีมากขึ้น
Cr: BBC, WFTV