ศาลปกครองกลางยกคำร้อง'ถวิล พึ่งมา'ฟ้อง สจล. หลังถูกปลดออกกรณีแก้เกรดให้ลูกชาย

18 กันยายน 2563, 18:50น.


          ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้อง ในคดีที่นายถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ยื่นฟ้อง สจล.กับพวกรวม 6 คน กรณีขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่ง สจล.ที่ปลดตนเองออกจากการเป็นพนักงาน สจล. และให้คืนสิทธิการดำรงตำแหน่งอธิการบดีหรือตำแหน่งเทียบเท่า รวมทั้งคืนสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับราชการให้แก่ตน จากเหตุขณะดำรงตำแหน่งอธิการบดี สจล.ได้ให้อาจารย์ผู้สอนและผู้เกี่ยวข้องแก้ไขคะแนนผลการสอบและเกรดของนายถิรกรณ์ พึ่งมา บุตรชาย จากเดิมที่ได้เกรด F เปลี่ยนเป็นเกรด C ซึ่งนายถวิลได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แต่คณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์ สจล.มีมติลงวันที่ 23 มีนาคม 2559 ให้ยกอุทธรณ์ของนายถวิล



เหตุผลที่ศาลปกครองกลางยกฟ้อง ระบุว่าในชั้นสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงที่ สจล.มีคำสั่งตั้งขึ้น นายถวิลให้ถ้อยคำว่าได้มีการโทรศัพท์ไปหาอาจารย์ที่สอนหนังสือ 3 รายวิชาแก่บุตรชาย ซึ่งอาจารย์ที่สอน 3 รายวิชาดังกล่าวก็ให้การยืนยันในชั้นสอบหาข้อเท็จจริง ว่าก่อนสั่งพิมพ์รายงานคะแนนฉบับสมบูรณ์ นายถวิลครั้งยังดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้โทรศัพท์มาหา เพื่อให้ช่วยดูคะแนนให้บุตรชาย และอาจารย์ที่สอนทั้ง 3 รายวิชาก็ได้มีการเพิ่มคะแนน ให้กับบุตรชายของนายถวิล จนทำให้จากคะแนนเดิมที่อยู่ในเกณฑ์ได้คะแนน F ปรับขึ้นมาได้รับเกรด C



        โดยให้เหตุผลที่มีการเพิ่มคะแนนให้ว่า เนื่องจากเกรงใจนายถวิลที่เป็นผู้บังคับบัญชา เป็นอาจารย์ผู้ใหญ่ที่รับราชการอยู่ในสาขาวิศวกรรมโทรคมนาคม ซึ่งอาจารย์ที่สอนทั้ง 3 รายวิชา ล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายถวิล ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองใด ๆ กับนายถวิล จึงมีเหตุน่าเชื่อว่านายถวิลโทรศัพท์ไปหาเกี่ยวกับเกรดของบุตรชาย ไม่ใช่ให้ไปสอนพิเศษแก่บุตรชาย



          พฤติการณ์การกระทำของนายถวิล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ไขเกรดบุตรชายใน 3 รายวิชา จึงเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตามข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 15 ของข้อบังคับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ว่าด้วยวินัยหลักเกณฑ์วิธีการเงื่อนไขการสอบสวน พิจารณาและการสั่งลงโทษทางวินัย 2552 แต่เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามข้อ 18 ( 1 ) ของข้อบังคับฉบับเดียวกัน



         ดังนั้นการที่อธิการบดี สจล. ผู้ถูกฟ้องที่ 2 ลงโทษปลดนายถวิลออกจากการเป็นพนักงานสถาบันตามคำสั่ง สจล.ลับที่ 1856/2558 ลงวันที่ 5 พฤษจิกายน 2558 จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว



        ส่วนที่คณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์สจล. มีมติยกอุทธรณ์ของนายถวิล เห็นว่าการพิจารณาอุทธรณ์ของคณะกรรมการอุทธรณ์ได้อาศัยข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย เช่นเดียวกับอธิการบดีสจล.เมื่อคำสั่งของอธิการบดีสจล.ที่สั่งลงโทษ ปลดนายถวิล ออกจากการเป็นพนักงานสถาบันชอบแล้ว การที่คณะกรรมการอุทธรณ์มีมติยกอุทธรณ์ จึงชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน

ข่าวทั้งหมด

X