สหรัฐฯ โน้มน้าวพันธมิตรเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็นร้อยละ 2 ของจีดีพี

          นายมาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯเรียกร้องให้พันธมิตรของสหรัฐฯทั่วโลกเพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันเป็นอย่างน้อยร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี โดยอ้างถึงภัยคุกคามจากจีน รัสเซียและประเทศอื่น ๆ

          คำกล่าวของนายเอสเปอร์สอดคล้องกับข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ว่าพันธมิตรของสหรัฐฯควรมีการใช้จ่ายที่ยุติธรรม ทั้งเขายังแสดงความไม่พอใจหลายครั้งต่อกลุ่มพันธมิตรนาโต้ที่ไม่เพิ่มการสนับสนุนงบประมาณของกลุ่มทั้งไม่เพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศในระดับร้อยละ 2

          นายเอสเปอร์ กล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่แรนด์ คอร์ปอเรชั่น (Rand Corporation) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยที่สร้างขึ้นในปี 2491 เพื่อเสนอการวิจัยและการวิเคราะห์สำหรับกองทัพสหรัฐฯ โดยขอให้พันธมิตรทั่วโลกมีความเข้าใจว่าสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์และรักษาระเบียบที่ยึดตามกฎสากล จึงขอให้เพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันเป็นอย่างน้อยร้อยละ 2 ของจีดีพีและเพิ่มการลงทุนที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงความสามารถด้านการป้องกันเหมือนกับสหรัฐฯ

          ทั้งนี้ เยอรมนีมีการใช้จ่ายด้านการป้องกันประมาณร้อยละ 1.3 ของจีดีพี ทำให้ถูกประธานาธิบดีทรัมป์ วิพากษ์วิจารณ์ว่า ละเมิดต่อข้อตกลงของกลุ่มนาโต้เรื่องการบรรลุเป้าหมายการใช้จ่ายร้อยละ 2 ภายในปี 2567 โดยเมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวว่าเขาจะถอนทหารสหรัฐฯหลายพันนายออกจากเยอรมนี และในเดือนกรกฎาคม กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็มีประกาศเรื่องการโยกย้ายกำลังทหารและบุคลากร 11,900 คน ที่ประจำการอยู่ในเยอรมนีไปยังที่อื่น

.....