คาดวันนี้ พายุโนอึล ขึ้นฝั่งเวียดนาม อพยพคนเพิ่มกว่าล้านคนในพื้นที่เสี่ยง
รัฐบาลเวียดนาม สั่งอพยพประชาชนประมาณ 1,170,000 คน ออกนอกพื้นที่เสี่ยง ปิดโรงเรียนในหลายจังหวัดทางภาคกลาง รวมทั้งชายหาดท่องเที่ยวยอดนิยม ของเมืองดานัง ขณะที่พายุโซนร้อนรุนแรงโนอึล กำลังเคลื่อนตัวเข้าหาชายฝั่งตะวันออกตอนกลาง คาดว่าวันนี้จะขึ้นฝั่งทำให้เกิดฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 400 มิลลิเมตร (16 นิ้ว) ตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนนี้จนถึงวันนี้ พร้อมกับเตือนภาวะน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ชุมชนเมืองและดินถล่มในพื้นที่ใกล้ภูเขา
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฮ่องกง คาดว่า พายุจะขึ้นฝั่ง จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ ในภาคกลาง ทางเหนือของเมืองดานัง ด้วยความเร็วลม 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รัฐบาลเวียดนาม ระดมกำลังทหารจากค่ายประจำภาคและทหารชายแดนกว่า 250,000 นาย ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยและจะปักหลักรอปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยหลังพายุขึ้นฝั่งหากเกิดภัยพิบัติ
ในแต่ละปี เวียดนามเผชิญกับพายุโซนร้อนพัดถล่มเป็นประจำช่วงระหว่างเดือน พ.ค.- ต.ค.พื้นที่ชายฝั่งทางภาคกลางได้รับผลกระทบมากที่สุด จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปีนี้มีชาวเวียดนามเสียชีวิตหรือสูญหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ 68 ราย
นายกฯญี่ปุ่น ยกเลิกจัดงานชมซากุระ หลังมีเสียงวิจารณ์ใช้ภาษีประชาชน
เริ่มงานแรกแล้วสำหรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นนายโยชิฮิเดะ สึกะ ที่ทำเนียบ ยืนยันว่าจะตั้งใจและทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ผลที่ออกมาสอดคล้องกับความคาดหวังของประชาชน ยืนยันที่จะสานต่อนโยบายและแผนการหลายเรื่องที่ค้างจากสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและการต่างประเทศเนื่องจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ผู้นำญี่ปุ่นเริ่มแสดงแนวทางของตัวเองตั้งแต่เริ่มงานวันแรก ด้วยการแถลงว่านับจากนี้เป็นต้นไปจะไม่มีการจัดงานชมซากุระซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพ
งานดังกล่าวจัดทุกปีในสมัยนายอาเบะ ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่ายว่าเป็นการใช้ภาษีของประชาชนในทางที่ไร้ประโยชน์กับการรักษาฐานเสียง สร้างเครือข่ายอำนาจ และช่วยหาเสียงให้กับนักการเมืองที่เป็นพันธมิตรของตัวเอง ขณะที่นายสึกะ กล่าวว่าจะตั้งรัฐมนตรีปฏิรูปนโยบายพัฒนาดิจิทัลเพื่อต่อยอดกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ และจะหารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางลดค่าบริการโทรศัพท์ให้กับประชาชน ซึ่งมีการร้องเรียนมานานว่าแพงเกินไป
ด้านผู้เชี่ยวชาญ มองว่า เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ผู้นำญี่ปุ่นสานต่อนโยบายที่รัฐบาลปูทางไว้ดีอยู่แล้ว ชี้ว่านายสึกะน่าจะเป็นผู้นำที่สามารถทำให้รัฐบาลเข้าถึงประชาชนได้มากขึ้นกว่าเดิม
น่าห่วง! ข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯสูงมาก ฉุดทองคำโลกดิ่ง 20 ดอลลาร์-หุ้นวอลล์สตรีท ปิดลบ
ปัจจัยลบหลายเรื่องส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและทองคำปิดตลาดเมื่อคืนนี้ลดลง
1.ข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า มีผู้ยื่นขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายใหม่รายสัปดาห์ลดลงเล็กน้อยจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังเป็นตัวเลขที่สูงมากอยู่ ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 860,000 คน ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 875,000 คน
2.ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) สัญญาว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นเวลานาน เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้รอดพ้นจากภาวะถดถอยเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
-ปัจจัยดังกล่าวฉุดราคาทองคำ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ดิ่งแรง ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 20.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,949.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
-ดาวโจนส์ ลดลง 130.40 จุด หรือร้อยละ 0.47 ปิดที่ 27,901.98 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 28.48 จุด หรือร้อยละ0.84 ปิดที่ 3,357.01 จุด แนสแดค ลดลง 140.19 จุด หรือร้อยละ 1.27 ปิดที่ 10,910.28 จุด
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ ปิดที่ 40.97 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
ธ.กลางอินโดฯ-อังกฤษ คงดอกเบี้ยนโยบาย ใช้นโยบายการเงินกู้เศรษฐกิจ
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย คงอัตราดอกเบี้ยซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับร้อยละ 4.00 สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดธนาคารกลางอินโดนีเซีย ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินรูเปียห์ ที่เดือนนี้ดิ่งลงเกือบร้อยละ 2 ในปีนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง รวมทั้งลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์และผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับร้อยละ 0.10 ขณะที่ส่งสัญญาณว่าหากมีความจำเป็นพร้อมใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ BoE ระบุว่าเศรษฐกิจอังกฤษสามารถปรับตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ ธนาคารกลางพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากวิกฤตโควิด-19 รวมทั้งการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ปลดล็อก! คนไทย เดินทางไป 3 แคว้นในสหราชอาณาจักร ไม่ต้องกักตัว
ทางการอังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์ ประกาศว่าคนที่เดินทางมาจากประเทศไทยไม่ต้องเข้าสู่การกักกันเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์โควิด-19 ตั้งแต่เช้าวันเสาร์นี้ 19 ก.ย.
-โดยในประกาศฉบับนี้ อังกฤษกับสกอตแลนด์ ระบุว่า ผู้ที่เดินทางมาจากสิงคโปร์ ไม่ต้องเข้าสู่การกักกันเช่นกัน
การตัดสินใจยกเลิกข้อจำกัดการกักกันสำหรับผู้โดยสารขาเข้าจากประเทศไทยและสิงคโปร์ไม่น่าจะทำให้มีผู้ที่เดินทางมาจากทั้ง 2 ประเทศนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศยังมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทางทั้งเข้าและออกประเทศ เช่นต้องมีใบอนุญาตทำงาน หรือเป็นคู่สมรสหรือบุตรของผู้มีถิ่นที่อยู่
-ส่วนเวลส์ยกเว้นการกักกันให้กับผู้ที่เดินทางมาจากยิบรอลต้าอีกประเทศหนึ่ง
-แต่ทั้ง 3 แคว้นระบุให้ผู้ที่เดินทางมาจากสโลวีเนียและกวาเดอลูป จะต้องแยกกักตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจาก สถานการณ์โควิด-19 ของทั้ง 2 ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญโดยสโลวีเนียมีอัตราผู้ป่วยในช่วง 7 วันนี้ อยู่ที่ 29.1 ต่อ 100,000 คนเพิ่มขึ้นจาก 14.4 ในช่วง 7 วันก่อนหน้า ส่วนอัตราของกวาเดอลูปเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่าในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีการเตือนให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ กรอกแบบฟอร์มข้อมูลในการเดินทางเข้าประเทศให้ครบถ้วน โดยเฉพาะรายละเอียดการติดต่อและที่อยู่ในสหราชอาณาจักร เพราะอาจถูกปรับมากถึง 3,200 ปอนด์ หรือประมาณ129,495 บาท
สำหรับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรใน 24 ชั่วโมงของวันพฤหัสบดี 17 ก.ย. มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 3,395 คน รวมมีผู้ป่วยสะสม 384,075 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 41,794 ราย
สายการบินเอทิฮัด ให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากตปท.สวมริสแบนด์ สังเกตโควิด-19
สายการบินเอทิฮัด เป็นสายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) กล่าวว่า ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินอาบูดาบี จะต้องสวมอุปกรณ์ติดตามตัวในระหว่างที่กักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ประชาชนยูเออีและคนที่พักอยู่ในยูเออี จะเดินทางกลับเข้าประเทศผ่านทางสนามบินอาบูดาบี ส่วนชาวต่างชาติจะเดินทางเข้าประเทศผ่านสนามบินดูไบ
การสวมอุปกรณ์ติดตามตัว เป็นการสวมกำไลข้อมือ หรือ ริสแบนด์ ที่ได้รับการอนุมัติทางการแพทย์แล้วติดข้อมือไว้ตลอดเวลาและจะสามารถถอดออกได้ก็ต่อเมื่อครบกำหนด 14 วัน ของการกักตัวเพื่อสังเกตอาการการติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ คนที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสสูง อาจจะต้องกักตัวเพื่อสังเกตอาการในสถานที่ที่รัฐบาลยูเออีจัดไว้ให้
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยูเออี กล่าวว่า ร้อยละ 12 ของผู้ติดเชื้อในช่วงสองสัปดาห์ที่แล้ว เป็นคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ขณะที่ร้อยละ 88 เกี่ยวข้องกับคนที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ กล่าวว่า สาเหตุที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เป็นเพราะประชาชนไม่ปฎิบัติตามแนวทางการเว้นระยะห่างระหว่างกัน