ซีดีซีคาดชาวอเมริกันส่วนใหญ่อาจได้รับวัคซีนโควิด-19 กลางปีหน้า

          แม้จะมีคาดการณ์ว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ชุดแรกจะเริ่มแจกจ่ายได้ภายในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมปีนี้ แต่นายแพทย์โรเบิร์ต เรดฟิลด์ หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซีกล่าวในระหว่างการชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการจัดสรรวุฒิสภาว่าการผลิตวัคซีนในปริมาณมากต้องใช้เวลา ดังนั้นการแจกจ่ายวัคซีนจะต้องมีการจัดลำดับของกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีน ซึ่งกลุ่มแรกคือกลุ่มผู้เผชิญเหตุและผู้ที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากที่สุด จึงคาดว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะได้รับวัคซีนประมาณกลางปีหน้า แต่นายแพทย์เรดฟิลด์ กล่าวว่าชาวอเมริกันมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 อยู่แล้วคือการใช้หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย หากทุกคนใช้หน้ากากนี้อย่างต่อเนื่องสหรัฐฯ ก็จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ซึ่งเขากล่าวด้วยว่า การรวมตัวกันและสังสรรค์โดยไม่สวมหน้ากากอนามัยทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าเศร้า

          อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติกล่าวว่า ปัญหาหนึ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนก็คือ “ความลังเลที่จะรับวัคซีน” เมื่อมีเรื่องการเมืองสหรัฐฯ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยมีผลการสำรวจจากมูลนิธิไกเซอร์ (Kaiser Family Foundation) ซึ่งเป็นองค์กรที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของคนอเมริกัน พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งหนึ่ง ระบุว่าพวกเขาจะไม่รับวัคซีนหากมีให้ใช้ฟรีก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 3 พฤศจิกายน ส่วนผู้ตอบแบบสอบถามจากกลุ่มผู้ที่เข้าร่วมการประชุมพรรคการเมือง ส่วนใหญ่ก็ตอบว่าจะไม่รับวัคซีนเช่นกัน

          นายแพทย์ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและนโยบายโรคติดเชื้อแห่งมหาวิทยาลัยมินนิโซตากล่าวว่า ความไม่ไว้วางใจในหน่วยงานของรัฐกำลังขัดขวางการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังใด ๆ เนื่องจากความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและระบบสาธารณสุข

          นายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ลักษณะเฉพาะของเชื้อไวรัสโคโรนาที่เปลี่ยนแปลงได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการแพร่ระบาด และทุกคนควรตระหนักถึงความพยายามป้องกันไม่ให้ตนเองติดเชื้อ

.....