สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มผู้ป่วยยังมีเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 1 คน ซึ่งในวันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประชุมทางไกลไปยังตำรวจทั่วประเทศเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และเตรียมความพร้อมรองรับและป้องกันตนเองจากการติดเชื้อในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่

พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 และโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของการยกเลิกวีซ่าผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีน เกาหลีใต้ อิหร่าน อิตาลี และ 2 เขตปกครองพิเศษ มาเก๊า และ ฮ่องกง ผู้ที่จะเดินทางจากประเทศเหล่านี้จะต้องปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ในการขออนุญาตเข้าประเทศไทย คือ มีใบรับรองแพทย์ ข้อมูลการกักตัว และต้องนำเอกสารมายื่นให้สถานทูตและสายการบินพิจารณา ก่อนจะอนุญาตให้เข้ามาในประเทศ เชื่อว่ามาตรการนี้จะลดความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อเข้ามาในประเทศได้ส่วนหนึ่ง ส่วนคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง จะต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคอย่างละเอียด หากไม่พบว่ามีอาการติดเชื้อ จะนำส่งกลับภูมิลำเนาเพื่อกักตัว 14 วัน หากฝ่าฝืนก็จะมีความผิดตามกฎหมาย

ด้านพ.ต.อ.จิรายุ วิสูตรานุกูล อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลตำรวจ บอกว่า โรงพยาบาลตำรวจจัดเตรียมพื้นที่รองรับตำรวจ ครอบครัวตำรวจ และ ประชาชน ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยมีการจัดเตรียมห้องคัดแยก ป้องกันการปะปนและแพร่กระจายโรค รวมถึงเตรียมแผนสำรองหากมีผู้ป่วยเพิ่มก็จะขยายพื้นที่ และจัดลำดับตามความสำคัญ เพื่อความดูแลที่เหมาะสม ส่วนค่าใช้จ่ายเป็นไปตามสิทธิการรักษาทั่วไปของผู้ป่วยแต่ละคน แต่ทางรัฐมีการจ่ายค่าใช้จ่ายในการส่งเชื้อตรวจในห้องปฏิบัติการ สำหรับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยโควิด- 19
... ด้านพล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผบ.ตร. ให้จัดตั้งวอร์รูม ที่ศปก.ตร. เป็นศูนย์รองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อ โควิด-19 ให้ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง มีการประชุมทุกวันเวลา 10.00 น. และให้ตั้งคณะกรรมการย่อยในการดูแลแยกเป็นเรื่องต่างๆ ทุกส่วนราชการของ ตร. เช่น การบังคับใช้กฎหมาย การเตรียมการด้านการแพทย์ การเตรียมการอพยพ และกรณีการเยียวยาต่างๆ พร้อมประสานส่งข้อมูลให้กับศูนย์โควิด-19 ของรัฐบาลก่อนเวลา 20.00 น. ทุกวัน และมอบหมายให้ พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา ผบก.สท. เป็นผู้ประสานงาน ส่วนการให้ข้อมูลด้านข่าวขอให้ผ่านจากทีมโฆษกของตร. สตม. ปอท. และแพทย์ รพ.ตำรวจเป็นหลัก เพื่อยืนยันข้อมูลที่ถูกต้อง