ด้านนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้ว่ากรณีมีคนในบ้านไปประเทศเสี่ยงต่อโรคมาแล้วมากักกันตัวที่บ้านจะต้องใส่หน้ากากอนามัย รับประทานอาหารแยกกับคนในบ้าน ส่วนคนในบ้านต้องหมั่นล้างมือ คนในบ้านที่ไม่ได้ไปด้วยไม่จำเป็นต้องกักกันตัวตาม
ส่วนการติดตามเฝ้าระวังคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ในวันนี้ ท่าอากาศยานทุกที่ในประเทศไทยจะนำแอปพลิเคชั่น SydeKick for Thaifightcovid และ AOT Airports มาเก็บข้อมูลคนที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโรคโควิด-19 และนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เข้าไทย โดยแอปพลิเคชั่น AOT Airports จะใช้กับผู้ที่มาจากประเทศที่ไม่ใช่ประเทศกลุ่มเสี่ยงของโรค ส่วนแอปพลิเคชั่น Thaifightcovid จะใช้กับแรงงานไทยผิดกฎหมายจากเกาหลีใต้หรือผู้ที่มาจากประเทศเสี่ยง โดยผู้ที่เข้าไทยทุกคนจะต้องนำโทรศัพท์ไปโหลดแอปพลิเคชั่นนี้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง กรอกข้อมูลที่กำหนดไว้แล้วจะมีบาร์โค้ดให้สแกน เจ้าหน้าที่ก็จะมีข้อมูลทุกอย่างเก็บไว้ที่กรมควบคุมโรคและจะคอยสอบถามตลอด ถ้าพบใครออกนอกพื้นที่กักกันจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบทันที แอปพลิเคชั่นยังป้องกันการล็อคระบบ ป้องกันการเคลื่อนย้ายจีพีเอส หากพบใครฝ่าฝืนเข้าไปเคลื่อนย้ายระบบจะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามพระราชบัญญัติควบคุมโรค จึงขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตาม เพราะรัฐบาลไม่ต้องการใช้กฎหมายเอาผิด