สหรัฐฯมีผู้ป่วยมากกว่า 900 คนแล้วหลังย้ายการตรวจโรคจากรัฐบาลกลางมาเป็นระดับรัฐ

11 มีนาคม 2563, 07:59น.


          สหรัฐฯ มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากถึง 959 คนเสียชีวิต 28 รายและหายป่วย 8 คน (เมื่อเวลา 7.29 น.) หลังจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขวิจารณ์ทางการว่าไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องการเตือนประชาชน และไม่สนับสนุนการทดสอบ



          นักระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในสหรัฐฯ ระบุในเอกสารการแพทย์อเมริกัน (the Journal of the American Medical Association :JAMA) ว่า จำนวนผู้ป่วยสะสมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงชุดตรวจหาเชื้อ และวิธีการตรวจหาเชื้อจากการที่จะใช้ห้องปฏิบัติการของรัฐบาลกลาง มาเป็นห้องปฏิบัติการของแต่ละรัฐ นอกจากนี้ยังชี้ว่า ชุดตรวจโรคที่รัฐบาลกลางจัดหามาให้ยังมีความผิดพลาดเกิดขึ้นถึงครึ่งหนึ่งของการตรวจ ส่งผลให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปทั่วประเทศ



          ก่อนหน้านี้ นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ กล่าวปกป้องการทำงานของรัฐบาลกลางว่า มีการทดสอบหลายล้านครั้งในการทำงานภาคสนาม แต่การตรวจหาเชื้อจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการทำงานร่วมกับบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตามศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า เมื่อวันจันทร์มีการทดสอบกลุ่มเสี่ยงไปแล้ว 8,554 คน ขณะที่เกาหลีใต้ ที่รายงานพบผู้ป่วยคนแรกในวันเดียวกับสหรัฐฯ มีการทดสอบกลุ่มเสี่ยงไปแล้วมากกว่า 189,000 คน ตามที่มีรายงานในนิตยสารทางธุรกิจ (the Business Insider)



          นักระบาดวิทยาระบุด้วยว่า การที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยกเลิกการห้ามใช้ห้องปฏิบัติการของรัฐ และให้แต่ละรัฐสามารถพัฒนาชุดทดสอบของตนเองให้สอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกยังช่วยให้การตรวจโรคสามารถดำเนินไปในวงกว้าง ช่วยให้การตรวจผู้สงสัยดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น



....

ข่าวทั้งหมด

X