นายกฯ ขออย่าสร้างข้อมูลที่บิดเบือน ส่วนคนที่หนีการควบคุมตัวต้องถูกดำเนินคดี

10 มีนาคม 2563, 20:09น.


         การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่สถาบันบำราศนราดูร ที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รักษาตัวอยู่ พร้อมตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) กรมควบคุมโรค และประชุมวิดีโอทางไกลติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แม้การทำงานมีปัญหาแต่ภาพรวมน่าพอใจทั้งการทำงานของเจ้าหน้าที่และการควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19 ในไทย ทุกฝ่ายพร้อมรับสถานการณ์ สิ่งสำคัญคือทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและไม่สร้างข้อมูลบิดเบือนที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น พร้อมระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวแรงงานไทยผิดกฎหมายที่กลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ 80 คนที่หลบหนีการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ได้ครบหมดแล้ว และเตรียมเอาผิดทางกฎหมายกับแรงงานไทยผิดกฎหมายที่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และตอนนี้ได้โหลดแอปพลิเคชั่นโควิด-19 ในมือถือผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเพื่อติดตามตัวคนกลุ่มนี้ตามมาตรการเฝ้าระวัง



          นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้เพิ่มการผลิตหน้ากากแบบผ้าให้ได้ 50 ล้านชิ้นเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในประเทศ ส่วนหน้ากากอนามัย จะต้องให้กับบุคลากรทางการแพทย์ก่อน แต่ละเดือนผลิตได้ประมาณ 38 ล้านชิ้น และตอนนี้ประเทศเจอปัญหาหลายอย่าง ดังนั้น มาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจะต้องทยอยออกตามสถานการณ์ ในส่วนตัวพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อปรับปรุงตัว



           ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่า สนามกีฬา จ.บุรีรัมย์ สถานที่ควบคุมตัวแรงงานไทยผิดกฎหมายตามเวลา 14 วัน ไม่เหมาะสม จะจัดหาสถานที่ใหม่ให้เหมาะสม



 

ข่าวทั้งหมด

X