ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. วันอังคารที่ 10 มีนาคม 2563

10 มีนาคม 2563, 08:44น.


ยกเลิกนโยบายแจกเงิน 2,000 บาท



          ในวันนี้ (10 มี.ค) จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้มีผู้ที่แสดงความเห็นคัดค้านการจ่ายเงินสด 1,000 บาทเป็นเวลา 2 เดือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ได้ยกเลิกมาตรการนี้แล้ว



          นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบ 4 มาตรการเร่งด่วน เตรียมเสนอให้ที่ประชุมครม. เห็นชอบวันนี้ วงเงินรวมประมาณ 4 หมื่น 5 พันล้านบาท ได้แก่ การคืนเงินประกันมิเตอร์การขอใช้ไฟฟ้าให้กับครัวเรือน 21 ล้าน 5 แสนราย สำหรับประเภทบ้านเรือนที่ใช้อยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก, ให้ตรึงอัตราค่าไฟฟ้าที่ประมาณ 3.50 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.2563), ขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้าบิลเดือนเมษายนและพฤษภาคม 6 เดือน และมาตรการสุดท้ายคือ นำเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าวงเงิน 4,000 ล้านบาท ไปร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการสร้างงานให้เกิดประโยชน์ในการแก้ปัญหาภัยแล้งในท้องถิ่นต่างๆ



ป.ป.ส.เสนอร่างกม.ปรับสถานะพืชกระท่อมเข้าครม.



         นอกจากนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จะนำเสนอร่างกฎหมายปรับสถานะพืชกระท่อมจากบัญชียาเสพติด เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งอ้างอิงผลการศึกษาวิจัยที่พบว่าแม้พืชกระท่อมจะมีผลกระทบต่อร่างกายแต่ก็ไม่มาก โดยสารสำคัญในกระท่อมที่เรียกว่าไมตราเจนีนออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง มีคุณสมบัติบรรเทาอาการปวด และสามารถนำมาใช้เชิงเศรษฐกิจได้



สรรพสามิต เว้นภาษีนำเอทานอลไปผลิตเจลล้างมือ



          นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ได้ออกประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขอใช้สิทธิเสียภาษีในอัตราภาษีศูนย์ สำหรับสุราสามทับ (แอลกอฮอล์) ที่นำไปแปลงสภาพ เพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบที่มิได้ทำขึ้นเพื่อการจำหน่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ ซึ่งมี 3 กลุ่ม คือ องค์การสุรา ผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราสามทับเพื่อส่งออก และกลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรมเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงไม่ต้องเสียภาษีแอลกอฮอล์ พร้อมลดเงื่อนไข และข้อจำกัดต่าง ๆ ในการปฏิบัติเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยประกาศนี้จะมีผลถึงวันที่ 30 กันยายนแต่หากสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ หรือยังมีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะพิจารณาขยายเวลาตามความจำเป็น



          นอกจากนี้กลุ่มผู้ประกอบการยังได้บริจาคแอลกอฮอล์ จำนวน 3 แสนลิตร ให้กับกรมสรรพสามิต เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วประเทศ ผ่านสรรพสามิตจังหวัด เฉลี่ยวันละ 100 ลิตร เป็นเวลา 30 วัน โดยจะเริ่มแจกจ่ายได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ ในรูปของแอลกอฮอล์แบบน้ำ โดยจะให้ประชาชนนำภาชนะมาใส่ได้รายละไม่เกิน 1 ลิตร เพื่อใช้ในการทำความสะอาดในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19



          ยืนยันว่าแอลกอฮอล์ ที่จะนำไปผลิตเป็นเจลล้างมือ และรูปแบบต่าง ๆ สำหรับฆ่าเชื้อโรคยังมีเพียงพอกับความต้องการของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันมีโรงงานเอทานอล 26 โรงงาน กำลังการผลิต 7 ล้านลิตรต่อวัน โดยใช้พลังงาน 4 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนอีกประมาณ 3 ล้านลิตรต่อวัน จะสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้



พณ.จับผู้ค้าขายหน้ากากอนามัยแพงเกินจริงมากกว่า 100 ราย



          ผลการจับกุมผู้ค้าหน้ากากอนามัยในราคาแพงเกินจริง นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม ถึงวันที่ 8 มีนาคม มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 102 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 74 ราย ต่างจังหวัดอีก 28 ราย โดยดำเนินคดีในความผิด 2 ข้อหา คือไม่ปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และความผิดฐานค้ากำไรเกินควรและกักตุนสินค้า ซึ่งมีโทษหนักจำคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนการจับกุมผู้ค้าออนไลน์ทั้ง Facebook Line Instagram กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปัจจุบันได้จับกุมไปทั้งหมด 14 ราย



          ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม เป็นต้นไป กระทรวงพาณิชย์จะตรวจสอบและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยที่จำหน่ายเกินราคาที่กฎหมายกำหนดไว้คือชิ้นละ 2.50 บาท ซึ่งหากพบผู้กระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาที่กฎหมายกำหนดมีอัตราโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบว่าผู้กระทำผิดขายแพงเกินจริงและมีการกักตุนสินค้าด้วยจะเป็นความผิดทั้ง 2 กระทง โดยจะได้รับโทษหนักกว่าคือจำคุก 7 ปี ปรับ 1 แสน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากผู้พบเห็นการกระทำความผิด โปรดแจ้งข้อมูลและหลักฐานมายังกรมการค้าภายใน โดยใช้สายด่วน 1569 หรือสื่อโซเชียลของกรมการค้าภายในเพื่อเป็นข้อมูลในการตรวจสอบและจับกุมต่อไป



มธ.เปิดตัวหน้ากากอนามัยสะท้อนน้ำใช้ได้ 30 ครั้ง



          ในวันนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จะเปิดตัวหน้ากากอนามัยต้นแบบ ซึ่งผลิตจากวัสดุผ้าสะท้อนน้ำที่สามารถใช้ซ้ำได้ถึง 30 ครั้ง ผลิตจากวัตถุดิบในประเทศ และใช้นวัตกรรมผลิตอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งหน้ากากที่มีคุณสมบัติป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่ดูดซับความชื้น และสามารถทำความสะอาดหรือซักเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เบื้องต้นตั้งเป้าหมายการผลิตไว้ที่ 400 ชิ้น จากนั้นจะนำมาทดสอบประสิทธิภาพหากผลลัพธ์เป็นไปตามเป้าหมาย ก็จะผลิตเพิ่มอีก 1,000 ชิ้นทันที เพื่อแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนต่อไป



องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันเรียกร้องรัฐบาลแสดงจุดยืนข่าวโกงหน้ากากอนามัย



          องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ออกแถลงการณ์เรื่อง COVID-19 วิกฤตความเชื่อมั่นที่ประชาชนไทยมีต่อรัฐบาล โดยระบุว่า ที่น่ากลัวกว่าวิกฤต COVID-19 คือ วิกฤตความเชื่อมั่นที่ประชาชนไทยมีต่อรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่หวังพึ่งภาครัฐในการต่อสู้กับโรคระบาด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความวุ่นวายสับสนของข้อมูล ข่าวลือเรื่องการโกงกิน แม้กระทั่งหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในการป้องกันโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวิชาชีพหมอ และพยาบาลผู้เสียสละทำงานแต่ขาดซึ่งปัจจัยพื้นฐานเช่นนี้ ซึ่งหากเป็นจริงตามข่าวถือว่าเป็นเรื่องที่น่าละอายยิ่ง องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในข่าวการโกงกินที่เกิดขึ้น เพื่อแสดงถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทย อย่าปล่อยให้ เรื่องนี้ทำลายความเชื่อมั่นศรัทธา และทำร้ายความรู้สึกของประชาชน เพราะการมีรัฐบาลที่พึ่งพาได้ ซื่อสัตย์จริงใจต่อความยากลำบากของประชาชน จะเป็นขวัญและกำลังใจที่ดียิ่งในการต่อสู้ร่วมกัน



...

ข่าวทั้งหมด

X