ราคาน้ำมันดิบร่วงหนักที่สุดนับแต่ปี 2534 หลังซาอุฯเปิดฉากสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย

09 มีนาคม 2563, 22:07น.


          นายแมตต์ สมิธ ผู้อำนวยการบริษัทคลิปเปอร์ดาตา ผู้วิจัยสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯและนายเฮลิมา ครอฟท์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกของบริษัทอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เกตส์ และนักวิเคราะห์จากบริษัทเอฟจีอี ที่ปรึกษาด้านพลังงานของอังกฤษ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบร่วงหนักเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ หลังจากซาอุดิอาระเบีย สร้างความประหลาดใจให้นักลงทุนโดยเริ่มทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย ประกาศจะลดราคา 6-8 ดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนหน้า และเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดจากรัสเซีย ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเวสต์เท็กซัส สหรัฐฯ ร่วงมากถึงร้อยละ 34 ลงมาที่ 27.34 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังจากนักลงทุน ประเมินว่า ซาอุดิอาระเบียจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่จะนำมาขายในตลาดโลกในเดือนหน้า พร้อมลดราคา 6-8 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในกรุงลอนดอน ร่วงลงร้อยละ 26 ลงมาที่ 33.49 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล นับเป็นราคาที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2534



          ซาอุดิอาระเบีย ผู้นำกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันดิบ(โอเปก)และรัสเซีย ผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่ไม่ใช่สมาชิกกลุ่มโอเปก ได้ร่วมมือกันเรื่อยมา โดยลดกำลังการผลิตมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ แต่การประชุมในเวทีโอเปก พลัส ในกรุงเวียนนา ออสเตรีย เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว รัสเซียปฏิเสธที่จะทำตามข้อเสนอของกลุ่มโอเปกที่ต้องการจะให้มีการลดกำลังผลิตน้ำมันดิบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจโลกให้เดินหน้าต่อไป อีกทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะนี้ทำให้อุปสงค์น้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงมาก แต่รัสเซียคัดค้าน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า รัสเซียต้องการจะลงโทษผู้ผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ต้องการให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีรายได้มากพอที่จะทำธุรกิจต่อไป



แฟ้มภาพ 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X