*สรุปข่าว 19.30น.*
ซาอุฯ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย.มากกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ปรับตัวลดลง 1 ใน 4 หรือ ร้อยละ 25 ราคาน้ำมันโลก ปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 29 ปี หลังจากซาอุดิอาระเบีย กับ รัสเซีย ไม่สามารถตกลงกันได้ในการประชุมกลุ่มโอเปกและชาติพันธมิตร เพื่อลดกำลังการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ซาอุดิอาระเบีย ประกาศลดราคาขายน้ำมันและเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบโต้รัสเซีย ราคาน้ำมันจึงดิ่งลงอย่างมาก ประกอบกับ สถานการณ์เรื่องการติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 ท่าที่ของซาอุดิอาระเบีย เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลกระทบทำให้สัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ที่ตลาดลอนดอน เมื่อเวลา 06.50 น.วันจันทร์ที่ 9 มี.ค. ลดลง 11.81 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ร้อยละ 26 อยู่ที่ราคา 33.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือเป็นราคาต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. 2559
บริษัทซาอุดี อารามโก บริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ซาอุดิอาระเบีย กำลังพยายามลงโทษรัสเซีย ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ที่ไม่สนับสนุนข้อเสนอในที่ประชุมกลุ่มโอเปก ที่ต้องการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน ด้วยการลดกำลังการผลิตลง ซาอุดิอาระเบียมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเมษายนมากกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากข้อตกลงของกลุ่มโอเปกในปัจจุบันที่ได้จำกัดการผลิตน้ำมันจะสิ้นสุดลงในปลายเดือนมีนาคมนี้
สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ 1,255.94 จุด ลดลง 108.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 103,623.75 ล้านบาท ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ 19,698.76 จุด ลดลง 1,050.99 ดัชนีฮั่งเส็ง ฮ่องกง ปิดตลาดที่ 25,040.46 ลดลง 1,106.21
คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน เสนอครม.พรุ่งนี้ นำมาตรการไฟฟ้ามาช่วยลดผลกระทบให้ประชาชน
หลังจากเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบนโยบายในการนำมาตรการไฟฟ้ามาช่วยลดผลกระทบประชาชนและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจรวม 45,000 ล้านบาท โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันพรุ่งนี้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการกำหนดรายละเอียดการดำเนินการต่อไป โดยมีทั้งหมด 4 มาตรการ ได้แก่
-คืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า สำหรับประชาชน และผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดเล็ก ในบิลค่าไฟฟ้าเดือนมีนาคม วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท มีทั้งหมด 21.5 ล้านราย ประกอบด้วย มิเตอร์ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ประมาณ 3,000,000 ล้าน วงเงิน ราว 11,000 ล้านบาท ,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ประมาณ 19,000 ล้านบาท จำนวนเกือบ 19 ล้านมิเตอร์ ซึ่งแต่ละรายจะได้รับคืนตามขนาดมิเตอร์ ส่วนใหญ่อยู่ที่ 2,000-4,000 ราย
-ลดค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม โดยลดค่าไฟฟ้าจากค่าเฉลี่ยปัจจุบัน 3.64 บาท/หน่วย เหลือ 3.50 บาท/หน่วย โดยหากไม่เข้ามาดูแลค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น เป็นราว 3.70 บาทต่อหน่วย โดยการดูแลดังกล่าวใช้เงินมาดูแลราว 10,000 ล้านบาท หรือประมาณ 23.2 สตางค์/หน่วย โดยมาจาก กฟน.,กฟภ.ประมาณ 4,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ กว่า 5,000 ล้านบาท เป็นเงิน call back ที่เกิดจาก 3 การไฟฟ้าไม่สามารถลงทุนได้ตามเป้าหมายที่กำหนด
-ให้กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้า บ้านอยู่อาศัย,กิจการขนาดเล็ก และโรงแรม สามารถขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้าประจำเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม เป็นเวลา 6 เดือน เพราะคาดว่าในช่วงดังกล่าว นักท่องเที่ยวยังมีจำนวนน้อย จนกระทบต่อผู้ประกอบการและประชาชนกลุ่มนี้
-เห็นชอบให้ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า เดินหน้าลงทุน 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณปี 2562 และ 2563 ให้ลงทุนต่อเนื่องเพราะงบประมาณส่วนนี้เป็นการพัฒนารอบโรงไฟฟ้ามีการจ้างงานและสร้างประโยชน์แก่ท้องถิ่น ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายอื่นๆนั้นกระทรวงพลังงานจะหารือกันในช่วงต่อไป โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ดิ่งลงแรงก็นับว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กระทรวงจะมองข้างหน้าว่า ควรจะมีมาตรการเสริมอย่างไร โดยจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริการกองทุนน้ำมันในเร็วๆนี้
รองผบ.ตร.สอบปากคำ ‘นายศรสุวีร์’ อ้างว่ามีหน้ากากอนามัย200ล้านชิ้น
กรณีมีบุคคลอ้างคนสนิทผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กักตุนหน้ากากอนามัยจำนวนมาก 200 ล้านชิ้น ทำให้ร.อ.ธรรมนัส ให้ทีมงานไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี บุคคลตามคลิปที่อ้างว่ามีการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้นและโพสต์แอบอ้างคนสนิทของร.อ.ธรรมนัส พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สอบปากคำนายศรสุวีร์ รายงานระบุว่า เป็นเพียงการเชิญตัวนายศรสุวีร์ มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ยังไม่ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามที่มีการแชร์คลิปวีดิโอขนย้ายหน้ากากอนามัยเตรียมส่งขายต่อในสื่อโซเชียล ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา
นายศรสุวีร์ กล่าวว่า ไม่รู้จักกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นการส่วนตัว แต่เคยเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งจึงขอถ่ายรูปด้วย ก่อนนำรูปมาขึ้นเฟสบุ๊ก ไม่มีเจตนาทำให้เสื่อมเสีย และขึ้นโพสต์คนละช่วงเวลากับการโพสต์เรื่องหน้ากากอนามัย ไม่คิดว่าสื่อมวลชนจะนำมาโยงกันจนทำให้รมช.เกษตรฯ เดือดร้อนไปด้วย ซึ่งต้องขอโทษที่ถูกนำมาโยงกับเรื่องนี้ และการโพสต์รูปคู่กับรมช.เกษตรฯ เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนเอง จนส่งผลกระทบถูกนำมาโยงกับเรื่องหน้ากากอนามัยกว่าตนไม่มีสินค้าหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้นตามที่โพสต์ไปก่อนหน้านี้ เหตุที่โพสต์นั้นเพราะตนมีอาชีพเป็นนายหน้า ต้องการสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า เพราะมั่นใจว่าถ้ามีลูกค้าสั่งสินค้ามา มั่นใจว่าน่าจะหาของได้ ส่วนที่ไลฟ์สดในโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ก็ขอเข้าไปถ่ายเท่านั้น แต่โรงงานนั้นผลิตหน้ากากอนามัยจริงแต่กำลังการผลิตน้อย
ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.)ได้นำหมายค้นของศาลเข้าค้นพื้นที่ต่างๆที่นายศรสุวีร์ เกี่ยวข้องรวม 6 จุด รวมถึงโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยที่นายศรสุวีร์ ไลฟ์สดโชว์ผ่านสื่อโซเชียลด้วย หลังจากนี้ตำรวจจะสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะผิดข้อหาอะไรบ้างยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ ต้องรอผลการตรวจค้นและผลการสอบอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นหน้าที่ของ ปคบ.และกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาเทคโนโลยี(ปอท.)ที่จะดำเนินการโดยตรง
จ. ภูเก็ต ประชุมหารือแนวทางตรวจคัดกรองเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงโควิด-19
สถานการณ์การท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประชุมกำหนดแนวทางมาตรการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังผู้มีความเสี่ยงโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมาที่ท่าอากาศยานภูเก็ต อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ(ขาเข้า) นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นความเดือดร้อนของกลุ่มสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เนื่องจากต้องการทราบแนวทางปฏิบัตินักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางเข้ามาที่จังหวัดภูเก็ตว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากนักท่องเที่ยวต้องไปพักที่โรงแรมต้องกักตัวดูอาการ14 วันจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตจะนำปัญหาต่างๆ เสนอมาที่จังหวัดเพื่อเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา ส่วนกรณีที่ประเทศที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวหรือไม่ มีกลุ่มประเทศอื่นที่ทำการบินเข้ามาต่อเครื่องที่จังหวัดภูเก็ต มาทางสิงคโปร์ มาเลเซีย เข้ามาที่ไทย อาจเคยผ่านประเทศกลุ่มเสี่ยงมาแล้วหรือไม่เคยผ่าน จะมั่นใจอย่างไรว่าคนกลุ่มนี้ปลอดภัยไม่ติดเชื้อ ถ้ามาตรการกระทรวงสาธารณสุขชัดเจนในแนวทางปฏิบัติจะยึดถือในแนวทางเดียวกัน
สิงคโปร์ จะตรวจคัดกรองผู้โดยสารเรือสำราญก่อนอนุญาตให้ลงจากเรือ
กรณีเรือสำราญคอสตา ฟอร์ทูนา ของบริษัทคอสตา โครเซีย ของอิตาลี พร้อมผู้โดยสารอิตาลี 64 คน ออกจากท่าเรือมารีน่า เบย์ ครูซ เซ็นเตอร์ สิงคโปร์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งตามกำหนดวันศุกร์จะเดินทางไปที่ท่าเรือในจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย และในวันเสาร์ เดินทางต่อไปที่ท่าเรือปีนัง มาเลเซีย แต่ทั้งประเทศไทยและมาเลเซีย ไม่อนุญาตให้เรือแวะจอด เกรงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เรือต้องแล่นกลับไปที่ท่าเรือต้นทางและจะจอดเทียบท่าเรือสิงคโปร์ในวันพรุ่งนี้(10 มี.ค.) องค์การการเดินเรือและการท่าเรือสิงคโปร์และการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่า ทางการสิงคโปร์จะส่งทีมแพทย์ขึ้นไปบนเรือสำราญ เพื่อตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกคนก่อนอนุญาตให้ลงมาจากเรือเพื่อความปลอดภัยซึ่งเป็นไปตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขและการท่าเรือสิงคโปร์ที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบประวัติการเดินทางและตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารทุกคนก่อนอนุญาตให้พวกเขาลงจากเรือ ก่อนหน้านี้ เจ้าของเรือสำราญ ยืนยันว่าผู้โดยสารทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีใครเป็นไข้หรืออาการป่วยอื่นๆเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ