ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงและได้คุยกับธปท.เพื่อหาทางดูแลค่าเงินบาท ธปท.มั่นใจว่า หากติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่หากยังไม่ดีขึ้นก็พร้อมดำเนินมาตรการอื่นต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(มาตรการQE) เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังไม่เข้าขั้นวิกฤตและเงินก็ยังมีสภาพคล่องมากพอ แต่เรื่องที่เป็นห่วงมากกว่าคือ หนี้ของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ภายในไตรมาสแรกของปีหน้าต้องออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
นายเมธี ระบุว่า ธปท.ปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปใหม่ในปี 2563 เป็นอัตราเงินเฟ้อแบบช่วงร้อยละ 1-3 คาดว่าจะใช้อย่างน้อย 3-5 ปี เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นค่ากลางร้อยละ 2.5 บวกลบร้อยละ 1.5 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและเกิดความยืดหยุ่นในนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และจะคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทุก 6 เดือน หากเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อาจต้องใช้เวลาถึง 5 ปีกว่าจะเข้าสู่เป้าหมาย ทำให้การดำเนินนโยบายการเงิน ยังเป็นแบบผ่อนคลายจนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น