คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เห็นชอบพัฒนาแหล่งน้ำ รับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

20 ธันวาคม 2562, 14:34น.


           หลังการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ  (กนช.) ครั้งที่ 3/2562 นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ปี 2563-2580) ซึ่ง สทนช. ได้ศึกษาทบทวน การพัฒนาและจัดทำแผนหลักเพื่อรองรับการพัฒนาในระยะ 10 ปี และ 20 ปี พบว่า ความต้องการใช้น้ำจะเพิ่มขึ้นจากปี 2560–2580 รวม 670 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ซึ่งตามแผน จะมีการพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน ปี 2563-2570 รวม 38 โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ 872.19 ล้าน ลบ.ม. การบริหารจัดการด้านความต้องการใช้น้ำ ปี 2563-2580 จำนวน 9 โครงการ  รวมถึงมาตรการแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย แผนการจัดการคุณภาพน้ำ และมาตรการอื่นๆ



          นอกจากนั้น ยังเห็นชอบแผนปฏิบัติการภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เช่น โครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2562 และ ปี 2563 ของการประปาส่วนภูมิภาค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบผลิต ระบบส่งน้ำ และระบบจ่ายน้ำประปาในพื้นที่ที่ประสบปัญหา ให้สามารถบริการน้ำประปาแก่ประชาชนได้เพิ่มขึ้นในอีก 10 ปีข้างหน้าอย่างพอเพียง รวม 14 โครงการ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก 513,960 ลบ.ม.ต่อวัน และสามารถให้บริการผู้ใช้น้ำเพิ่มขึ้นอีก 453,583 ราย และแผนปฏิบัติการด้านการจัดการน้ำเสียในชุมชนระยะ 20 ปี ขององค์การจัดการน้ำเสีย โดยมีแผนปฏิบัติการปี 2564-2580 ที่ส่งเสริมให้มีการจัดสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียชุมชนในเขตพื้นที่เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ รวมถึงระบบบำบัดน้ำเสียที่จะก่อสร้าง 780 แห่ง สามารถบำบัดน้ำเสียได้ 1.70 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน



          ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนหลักการพัฒนาหนองหาร จ.สกลนคร  รวมทั้งสิ้น 65 โครงการ ครอบคลุมการพัฒนา 10 ปี (พ.ศ. 2563-2572) กรอบวงเงิน 7,445 ล้านบาท โดยมีแผนงานระยะเร่งด่วน ปี 63-65 จำนวน 34 โครงการ  เช่น การพัฒนาขยายเขตเพิ่มประสิทธิภาพระบบประปาหมู่บ้าน ก่อสร้างสถานีสูบน้ำรอบหนองหาร ขุดลอกหนองหาร แผนหลักการพัฒนาบึงและหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่  โครงการการบรรเทาอุทกภัยเมืองสำคัญ และจัดหาแหล่งน้ำรองรับพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยว



           ส่วนการพิจารณากรอบแนวทาง การใช้สอยทรัพยากรน้ำสาธารณะของหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ประชุมเห็นว่า ควรมีแผนการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำสาธารณะ ทั้งในภาวะปกติ และในภาวะน้ำแล้งหรือภาวะน้ำท่วม เพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทฯในเขตลุ่มน้ำของคณะกรรมการลุ่มน้ำ ที่ผ่านความเห็นชอบของ กนช. และให้มีการติดตามและรายงานผลการดำเนินการ ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาผลดีหรือผลกระทบในการดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง นอกจากนั้น ยังต้องมีมาตรการในการควบคุมดูแลทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการบุกรุก หรือความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะ หลังจากที่ประชุมเห็นชอบแล้ว สทนช.จะนำไปจัดทำร่างประกาศคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เสนอประธาน กนช. พิจารณาลงนามและนำมาเป็นกรอบแนวทางการดำเนินการต่อไป



           ที่ประชุมยังได้คัดเลือกจังหวัดนำร่อง เพื่อดำเนินการจัดตั้งคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ซึ่งในปี 2563 สามารถดำเนินการได้จำนวน 40 จังหวัด และที่เหลืออีก 36 จังหวัดจะดำเนินการในปี 2564 มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานอนุกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำแผนงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามกรอบแผนแม่บทระดับลุ่มน้ำ และขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับจังหวัดทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต บูรณาการข้อมูลและสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และติดตาม ประเมินผล การดำเนินงานตามแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และรายงานต่อ กนช.

ข่าวทั้งหมด

X