นายเดวิด แทปปิน จากสำนักสำรวจธรณีวิทยาอังกฤษ ระบุว่า ทีมนักวิจัยนานาชาติ นำโดยสำนักสำรวจธรณีวิทยาอังกฤษ ศูนย์ภาพถ่ายทางทะเลแห่งชาติของอังกฤษ ร่วมกับมหาวิทยาอีกหลายแห่งของสหรัฐฯและอังกฤษ ใช้เทคโนโลยีสำรวจใต้ท้องทะเลในช่องแคบระหว่างเกาะชวากับเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย พบว่ามีซากเถ้าถ่านขนาดใหญ่อยู่ใต้ท้องทะเล หลังภูเขาไฟอานัก กรากาตัว ปะทุ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมปีที่แล้ว
ทีมนักวิจัย ระบุว่า เถ้าถ่านได้พุ่งออกจากภูเขาไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าสูง 90 เมตร และมีซากเถ้าถ่านไหลออกจากปากปล่องภูเขาไฟไกลถึง 2,000 เมตร ต่อมา ดินสไลด์ตัวลงสู่ทะเล หลังจากปากปล่องภูเขาไฟยุบตัวลง ทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าไปที่ชายหาด โรงแรมและอาคารบ้านเรือนหลายแห่งที่ตั้งอยู่ริมชายหาดได้รับความเสียหาย มีคนเสียชีวิตกว่า 400 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ หลายพันคน ทั้งนี้ การปะทุของภูเขาไฟอานัก กรากาตัว เกิดขึ้นโดยไม่มีการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ โรงแรมและอาคารบ้านเรือนเสียหาย ก่อนหน้านี้ ทีมวิจัยของนายสเตฟาน กริลลี จากมหาวิทยาลัยโรดไอแลนด์ของสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นักวิจัยได้ทราบข้อมูลใหม่ว่าการปะทุของภูเขาไฟ คือ สาเหตุหนึ่งของการเกิดคลื่นสึนามิ นอกจากสาเหตุหลักๆคือแผ่นดินไหวใต้ทะเล
CR:AFP