ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้19.30น.วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2562

17 ธันวาคม 2562, 20:17น.


กรมชลฯ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ผลักดันน้ำเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยา



          สถานการณ์ค่าความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเกิดน้ำทะเลหนุน ประกอบกับปริมาณน้ำต้นทุนมีน้อย กรมชลประทาน จึงวางแผนและดำเนินการบริหารจัดการน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ การลำเลียงน้ำจากคลองและแม่น้ำสายหลัก เร่งผลักดันน้ำเพื่อลดค่าความเค็มและผลกระทบด้านคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ ติดตามสถานการณ์คุณภาพน้ำด้านค่าความเค็มในลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่า เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ช่วงเวลา 13.30 – 17.30 น. ในแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดลิ่มความเค็มรุกตัวเพิ่มขึ้น หลังจากนั้น เวลาประมาณ 22.30 น. แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีประปาสำแล มีค่าความเค็มขึ้นสูงถึง 0.92 กรัมต่อลิตร เกินเกณฑ์มาตรฐานในการผลิตน้ำประปาที่ 0.50 กรัมต่อลิตร กรมชลประทาน เร่งดำเนินการแก้ไขผลักดันค่าความเค็มลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยในช่วงเช้าวันนี้ แม่น้ำป่าสัก ได้เพิ่มอัตราการระบายที่เขื่อนพระรามหก จากเดิม 5 ลบ.ม./วินาที เป็น 15 ลบ.ม./วินาที



          นอกจากนี้ ใช้ปริมาณน้ำจากแม่น้ำแม่กลอง มาสนับสนุน โดยลำเลียงน้ำจากแม่น้ำแม่กลองผ่าน 3 คลองหลัก เชื่อมมายังแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อช่วยผลักดันค่าความเค็มในแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ คลองจรเข้สามพัน ลำเลียงน้ำผ่านประตูระบายน้ำสองพี่น้อง ในอัตราไม่น้อยกว่า 25 ลบ.ม./วินาที ลงสู่แม่น้ำท่าจีน และใช้เครื่องสูบน้ำช่วยสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำพระยาบรรลือ ซึ่งจะต้องรักษาระดับน้ำบริเวณประตูระบายน้ำพระยาบรรลือ ให้สามารถสูบน้ำเข้าคลองพระยาบรรลือได้ ควบคุมให้มีอัตราการไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาไม่น้อยกว่า 30 ลบ.ม./วินาที และคลองประปา​ ลำเลียงปริมาณน้ำมาลงที่คลองปลายบาง​ โดยผ่านคลองประปาและคลองมหาสวัสดิ์ ก่อนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และคลองท่าสาร-บางปลา ลำเลียงน้ำจากแม่น้ำแม่กลองลงสู่แม่น้ำท่าจีน เพื่อช่วยผลักดันค่าความเค็มในแม่น้ำท่าจีน​ บริเวณประตูระบายน้ำคลองจินดา​ เพื่อควบคุมค่าความเค็มสำหรับกล้วยไม้ ไม่ให้เกิน​ 0.75 กรัมต่อลิตร​ การดำเนินการบริหารจัดการน้ำดังกล่าว จะต้องควบคุม ติดตาม และเฝ้าระวังคุณภาพน้ำด้านค่าความเค็ม ของแม่น้ำทั้ง 4 สาย (แม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำท่าจีน, แม่น้ำปราจีน-บางปะกง และแม่น้ำแม่กลอง) และด้านการลำเลียงน้ำ ให้เป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบและสามารถดำเนินกิจกรรมการใช้น้ำ เช่น การผลิตประปา ได้ตามปกติ นอกจากนี้  ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนใช้น้ำตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อเร่งผลักดันค่าความเค็มในแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ



รัฐบาล ขออย่าเผาวัชพืช-ช่วยกันประหยัดน้ำ รับมือภัยแล้ง 



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่หลายพื้นที่ขาดแคลนน้ำสำหรับทำนาปรังว่า ปกติในช่วงหน้าแล้งจะมีพื้นที่ร้อยละ 30 ในเขตชลประทานที่สามารถทำการเกษตรได้ ส่วนพื้นที่อื่นต้องปรับเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค จึงขอความร่วมมือช่วยกันประหยัดน้ำ โดยเฉพาะน้ำที่ใช้ในภาคการเกษตร ขณะเดียวกันสั่งให้ขุดบ่อบาดาลเพิ่มเติมเป็นแหล่งน้ำสำรองเพื่อใช้อุปโภคบริโภคยามขาดแคลน เพราะน้ำที่มีอยู่คงไม่สามารถนำไปใช้ในภาคการเกษตรได้ทุกพื้นที่



          มาตรการแก้ปัญหาฝุ่น pm2.5 ว่า ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนเร่งรัดดำเนินการเต็มที่ เพราะขณะนี้เข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกแล้ว เกษตรกรอาจจะเผาพืชไร่ สิ่งที่รัฐบาลต้องขับเคลื่อนคือต้องนำซากที่เหลือทางการเกษตรมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า หรือสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลช่วยกำจัดของเสีย ขอความร่วมมืออย่าจุดไฟเผาเศษวัสดุเตรียมการเพาะปลูก รัฐบาลจะตรวจจุดฮอตสปอร์ท รวมทั้งขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยกันตรวจตราเรื่องการเผาวัชพืชด้วย



          ส่วนมาตรการรณรงค์ใช้รถสาธารณะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ดีขึ้นหลายเส้นทางระบบขนส่งมวลชนสาธารณะหลายรูปแบบเปิดให้บริการแล้ว ทำให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวได้มากพอสมควร แต่ยังมีใช้อยู่บ้าง โดยเฉพาะการเดินทางลักษณะครอบครัวที่ต้องรับส่งบุตรหลาน ซึ่งต้องหาวิธีให้คนเหล่านี้เปลี่ยนมาใช้รถสาธารณะบ้าง ขณะเดียวกันขอความร่วมมือในส่วนของรถราชการที่ไม่ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้



นายกฯ สั่งการให้กระทรวงยุติธรรม ทบทวนการลดหย่อนโทษคดีอุกฉกรรจ์



          กรณีนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตรกรต่อเนื่องที่ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตและได้รับการลดโทษ ปล่อยตัวออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคม แล้วกลับก่อคดีอีกครั้ง นายกฯ สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมหามาตรการทางกฎหมายที่รัดกุมมาดูแลเรื่องการพิจารณาลดหย่อนโทษใหม่ เพื่อไม่ให้นักโทษคดีอุกฉกรรจ์พ้นโทษออกมาแล้วก่อเหตุซ้ำอีก รวมถึงต้องปรับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ให้ทันสมัยเข้ากับสถานการณ์ด้วย ส่วนข้อเรียกร้องจากคนในสังคมบางส่วนให้รัฐบาลทบทวนการใช้กฎหมายประหารชีวิตจริงจัง นายกฯ กล่าวว่า ต้องดูในรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น ๆ ประกอบด้วย โดยเฉพาะกฎหมายระหว่างประเทศที่ขณะนี้หลายประเทศยกเลิกการประหารชีวิตไปแล้ว หากประเทศไทยต้องการให้ยกเลิกการประหารชีวิต ควรต้องดูผลกระทบตามมาด้วย 



สสส.เปิด 10 พฤติกรรมสุขภาพคนไทยน่าจับตา ปีหน้า



          ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายทางวิชาการ จัดเวที Thaihealth Watch จับตา 10 ประเด็นพฤติกรรมสุขภาพคนไทย ปี 2563 นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า 10 ประเด็นพฤติกรรมสุขภาพคนไทย ปี 2563 ในกลุ่มวัยเด็กและเยาวชน มีประเด็นที่น่าจับตา คือ เรื่องเครียดหรือซึมเศร้า ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต ปี 2562 พบว่า ทุก 1 ชั่วโมง จะมีคนพยายามฆ่าตัวตาย 6 ราย โดยมีกลุ่มเด็กเยาวชนที่ฆ่าตัวตายสำเร็จถึงปีละ 300 ราย และยังพบแนวโน้มการเข้ารับคำปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น สิ่งที่น่าสนใจจากกระแสบนโลกออนไลน์ พบว่า สาเหตุที่ทำวัยรุ่นเครียด อันดับ 1 มาจากปัญหาความสัมพันธ์โดยเฉพาะครอบครัว ตามด้วยเรื่องหน้าที่การงาน การถูกกลั่นแกล้ง และความรุนแรง ซึ่งช่วงเวลาที่วัยรุ่นโพสต์ข้อความอยากฆ่าตัวตายมากที่สุดในสื่อทวิตเตอร์คือ วันอังคาร 4 ทุ่ม และวันศุกร์ 1 ทุ่ม หากรีบช่วยเหลือได้ทันจะสามารถลดความเสี่ยงจากการคิดสั้นได้ถึงร้อยละ 50



          ภัยคุกคามออนไลน์ ยิ่งเสพติดออนไลน์ ยิ่งเสี่ยงสูง เด็กเยาวชนยุค Gen Z ใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 10.22 ชั่วโมง ผลสำรวจของ COPAT ร่วมกับมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ในปี 62 พบว่า เด็ก ร้อยละ 31 เคยถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ร้อยละ 74 เคยพบเห็นสื่อลามกอนาจารทางออนไลน์ และร้อยละ 25 เคยนัดเพื่อนที่รู้จักในออนไลน์ ซึ่งผลวิจัยพบว่า เด็กที่ใช้เวลากับโลกออนไลน์มากยิ่งเสี่ยงต่อการถูกกลั่นแกล้งและเป็นผู้กลั่นแกล้งทางออนไลน์ถึง 3 เท่า ดังนั้นสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัวและการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจะช่วยป้องกันความเสี่ยงตั้งแต่ต้นทาง ชีวิตบนท้องถนน ทางเลือกทางรอดในการเดินทาง แม้แนวโน้มการใส่หมวกกันน็อกจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงร้อยละ 50 โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นมีแนวโน้มใส่หมวกกันน็อกลดลงจากร้อยละ 32 ในปี 2553 เหลือเพียงร้อยละ 22 ในปี 2561 ขณะที่เด็กเล็กร้อยละ 92 ไม่ใส่หมวกกันน็อก และยังพบแนวโน้มการบาดเจ็บและเสียชีวิตในกลุ่มเด็กเยาวชนจากรถจักรยานยนต์เคลื่อนย้ายจากภาคที่มีรายได้สูงไปยังภาคที่มีรายได้ต่ำกว่า ในปี 2563 สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายทำงานโดยลงลึกใน 283 อำเภอกลุ่มเสี่ยง ครอบคลุมการเสียชีวิตถึงร้อยละ 81



          ในกลุ่มวัยทำงาน ประเด็นที่น่าจับตาคือ  "พฤติกรรมกินอยู่อย่างไทย" เนื่องจากการเสียชีวิต 3 อันดับแรกของคนไทยยังคงเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอย่างโรคหลอดเลือดสมอง เบาหวาน หัวใจขาดเลือด พฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรค ผลการสำรวจ Top Post อาหารยอดนิยมในโลกออนไลน์ในปีที่ผ่านมาพบว่า รสเผ็ดและหวานยังคงเป็นรสชาติยอดนิยมของคนไทย วัยทำงานเน้นอาหารรสจัด วัยรุ่นเน้นที่รูปลักษณ์ ขณะที่เด็ก คนโสด คนทำงานบริษัทกินผักน้อยที่สุด เพื่อปรับพฤติกรรมการกิน สสส.จึงรณรงค์เพื่อปรับพฤติกรรมการกิน รวมถึงการทำงานเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเข้าถึงอาหารสุขภาพมากยิ่งขึ้น 



          สำหรับในกลุ่มผู้สูงอายุ ประเด็นที่น่าจับตาคือ "Fake News สุขภาพ" จากการสำรวจบนโลกออนไลน์พบว่า 5 ข่าวปลอมสุขภาพที่มียอดแชร์มากที่สุดคือ อังกาบหนูรักษามะเร็ง น้ำมันกัญชารักษามะเร็ง หนานเฉาเว่ยสารพัดโรค บัตรพลังงานรักษาสารพัดโรค ความฉลาดของลูกได้จากแม่มากกว่าพ่อ



หุ้นไทย ปิดตลาดบ่าย ร่วงลง 1.09 จุด  



          ตลาดหุ้นไทย เคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบมีแรงซื้อกลับมาระยะสั้นหลังจากเมื่อวานปรับลดลงแรงทำให้มีแรงซื้อกลับมาบ้างแต่ยังมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการเมืองที่มีความวุ่นวายและนักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนที่จะหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่โดยเฉพาะตลาดหุ้นยุโรปที่เริ่มปิดทำการในสัปดาห์หน้าส่งผลให้ปิดตลาดที่1,548.65จุด ลดลง 1.09จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59,566.12 ล้านบาท



          ดัชนีนิกเกอิ  ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ดัชนีนิกเกอิ ปรับตัวขึ้น 113.77 จุด ปิดที่ 24,066.12 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2561



          ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยดัชนีดาวโจนส์ S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดทำนิวไฮ เนื่องจาก นักลงทุนยังคงขานรับข่าวสหรัฐฯและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ดัชนีฮั่งเส็ง เพิ่มขึ้น 335.62 จุด ปิดที่ 27,843.71 จุด



CR:กรมชลประทาน



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X