ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้19.30น.วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562

16 ธันวาคม 2562, 20:12น.


ชลประทานที่ 10 จ.ลพบุรี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก



          ความวิตกกังวลของผู้ใช้น้ำจากสถานการณ์น้ำคลองชัยนาท-ป่าสัก เริ่มลดลงเป็นช่วงๆนายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า ปกติปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก ผ่านประตูมโนรมย์วันละ 35 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. แต่หลายวันที่ผ่านมาระดับน้ำที่ไหลเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก ลดลง ประกอบกับระหว่างทางมีการดักน้ำทำนากัน จึงทำให้น้ำที่ไหลมาน้อยและลดลงเร็ว กรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำเตรียมรับมือภัยแล้งไว้แล้ว ชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง ไปติดตั้งที่ประตูน้ำมโนรมย์เพื่อสูบน้ำเข้าสู่คลองชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งจะได้วันละ 1 ล้าน ลบ.ม. คาดว่า ภายในสัปดาห์นี้น้ำที่สูบจะเดินทางมาถึงลพบุรี และมีน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา ยืนยันว่าน้ำอุปโภคบริโภคมีเพียงพอแน่นอน ขอให้ผู้ใช้น้ำใช้อย่างประหยัด รวมทั้งเก็บน้ำไว้ในภาชนะเพื่อสำรองไว้ในครัวเรือน



‘ประวิตร’ขอให้ปรับแผนเผชิญเหตุ เพิ่มความเข้มด้านการข่าว



          การเตรียมความพร้อมมาตรการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและดูแลความปลอดภัยช่วงปีใหม่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ที่ประชุมรับทราบรายงานความพร้อมของเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช พล.อ.ประวิตร กำชับขอให้ฝ่ายข่าวเพิ่มความเข้มงานการข่าวในทุกมิติ จับตากลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในข่ายและอาจเป็นปัญหาความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนทั้งภายในและนอกประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เมืองใหญ่และในพื้นที่ภาคใต้ เครือข่ายนิยมความรุนแรง กลุ่มก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ การแสวงประโยชน์จากการลักลอบค้ามนุษย์และสินค้าผ่านแดน การเคลื่อนย้ายยาเสพติดและอาวุธสงคราม เป็นต้น ขอให้หน่วยงานความมั่นคงในทุกจังหวัด ประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั้งมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาตั้งแต่พื้นที่ชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ชั้นใน โดยให้ปรับแผนเผชิญเหตุให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ พื้นที่จัดงานปีใหม่ รวมทั้งชุมทางคมนาคมทั้ง ทางบก ทางน้ำและทางอากาศ ทั้งนี้ให้มีแผนรองรับปัญหาอัคคีภัยควบคู่กันไป



หุ้นไทย-หุ้นภูมิภาค ปิดตลาดลดลง รอรายละเอียดข้อตกลงการค้า



          ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวันโดยมีแรงขายในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้านำตลาดหลังจากก่อนหน้านี้ปรับขึ้นมาโดดเด่นแต่จากการที่สงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนบรรลุข้อตกลงในเฟสแรกทำให้มีการลดน้ำหนักการลงทุนลงเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง ปิดตลาดที่ 1,549.74 จุด ลดลง 24.17จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,908.69 ล้านบาท



          ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง ลดลง 179.67 จุด ปิดที่ 27,508.09 จุด นักลงทุนรอดูรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังจากที่ความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงดังกล่าวได้หนุนให้ตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อวันศุกร์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึงร้อยละ 2.57จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 70.75 จุด ปิดที่ 23,952.35 จุด



แม่สาวไทยที่พายเรือคายัคหายไปในทะเลที่จ.ภูเก็ต ร้องตร.สอบในเชิงลึก



          นางชุดารษา ศิริปรากรณ์ มารดาน.ส.วีรกานต์ ศิริปรากรณ์ แจ้งความเพิ่มกับพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต หลังลูกสาวซึ่งเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนเอกชนของจ.ภูเก็ต พายเรือคายัคหายไปในทะเลพร้อมแฟนชาวโปแลนด์ ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2562 และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบทั้งคู่  นางชุดารษา ร้องขอให้ตำรวจเร่งสืบสวนเชิงลึก เนื่องจากสอบถามกลุ่มที่เช่าเรือคายัค 4 ลำที่ออกไปเที่ยวด้วยกัน แต่ทุกคนกลับเข้าฝั่งปลอดภัย ทำให้เกิดความแคลงใจ เพราะทราบเพียงว่าเรือของลูกสาวทำไม้พายหายและเรือพลิกคว่ำ นอกจากนี้ยังต้องการให้ตรวจสอบข้อมูลที่เพื่อนลูกระบุว่าก่อนหายตัวไปลูกโทรขอความช่วยเหลือผู้ให้เช่าเรือด้วย ขณะที่วันที่ 19 ธันวาคม 2562 กลุ่มเพื่อนชาวโปแลนด์มีกำหนดจะกลับประเทศแล้ว จึงอยากขอให้ทางการเร่งสอบสวน ส่วนตัวยังหวังว่าลูกมีชีวิตอยู่ ทั้งนี้ มีรายงานว่าวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่สถานทูตโปแลนด์จะเดินทางมาที่จ.ภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้า



พายุหิมะ พัดกระหน่ำกรุงปักกิ่งของจีน



          พายุหิมะที่โหมกระหน่ำกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนและที่เมืองเทียนจินตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ ส่งผลทำให้ทั่วทั้งกรุงปักกิ่งและเมืองเทียนจิน ปกคลุมไปด้วยหิมะ อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว การคมนาคมสัญจรตามท้องถนนเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องปิดใช้ทางหลวงบางช่วงในเมืองเทียนจิน อุตุนิยมวิทยา คาดว่า พายุหิมะจะยังคงโหมกระหน่ำตลอดบ่ายวันนี้ นอกจากนี้ที่มณฑลเหอเป่ยได้เตรียมมาตรการฉุกเฉินรับมือกับสภาพการจราจร มีการระดมกำลังตำรวจจราจร กว่า 4,000 นาย ให้บริการประชาชนในการเดินทาง



ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ตกลงเร่งหาทางแก้ปัญหาข้อพิพาทแรงงาน



          สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น รายงานอ้างเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นและกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ว่า นายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นและนางคัง คยอง-ฮวา รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ อยู่ระหว่างการร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีจากเอเชีย-ยุโรป(อาเซม)ในกรุงมาดริด สเปน มีโอกาสพูดคุยกัน 10 นาที ก่อนร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำเมื่อวาน ทั้งสองฝ่ายย้ำถึงความสำคัญเร่งหาทางแก้ไขปัญหาข้อพิพาทแรงงานในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2  พร้อมหวังว่าคณะทำงานอีกชุดหนึ่งซึ่งจะประชุมในกรุงโตเกียวในวันนี้จะมีความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องนี้มากขึ้น



          ทั้งสองฝ่ายตกลงจะเพิ่มความร่วมมือให้มากขึ้นทั้งในระดับทวิภาคีและระดับไตรภาคี คือร่วมกับสหรัฐฯเพื่อผลักดันให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมทั้งจะประสานอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างนายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะของญี่ปุ่นกับประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ปลายเดือนนี้



          ก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศมีปัญหาข้อพิพาทด้านแรงงาน หลังจากเมื่อปีที่แล้วศาลเกาหลีใต้มีคำพิพากษา ให้ญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยให้แรงงานเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับให้ทำงานให้กับบริษัทญี่ปุ่นในยุคที่ญี่ปุ่นยึดครองคาบสมุทรเกาหลีเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี 2453-2488 แต่ญี่ปุ่น ปฏิเสธ โดยยืนยันว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้วเมื่อครั้งที่ทั้งสองฝ่ายสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 2508



ศาลฟิลิปปินส์ ยกฟ้องคดียึดทรัพย์ 3,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส



          รอยเตอร์ รายงาน การพิจารณาคดีทุจริตของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ที่ค้างอยู่ในศาลมา 32 ปี ว่าศาลคดีทุจริตของฟิลิปปินส์ ตัดสินให้ยกฟ้องคดีที่โจทก์คือคณะทำงานที่กำกับดูแลเรื่องธรรมาภิบาล ฟ้องศาลขอให้ยึดทรัพย์จากครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส ที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2532 ระบุว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งให้ครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส คืนทรัพย์สินมูลค่า 3,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้กับรัฐ อีกทั้งสำเนาเอกสารต่างๆที่ฝ่ายโจทก์ยื่นต่อศาลไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะเป็นพยานหลักฐานว่าอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส ทุจริตอย่างไร จึงยกฟ้องและยุติการพิจารณาคดี



          ก่อนหน้านี้ คณะทำงานของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้ครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส คืนทรัพย์สินดังกล่าวในช่วงที่ครองอำนาจ 20 ปี ทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ในลักษณะของหุ้น เงินฝากในธนาคารทั้งในและต่างประเทศและอสังหาริมทรัพย์ในฟิลิปปินส์ สหรัฐฯและอังกฤษ ในจำนวนนี้รวมถึงภาพวาด 177 ชิ้นและเครื่องเพชร 42 ลัง รวมมูลค่าเกือบ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ศาลคดีทุจริตได้ยกฟ้องคดีทุจริตอื่นๆของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสแล้ว 3 คดี เมื่อเดือนสิงหาคม กันยายนและตุลาคม โดยระบุว่า ไม่มีหลักฐานเช่นกัน



          แม้ว่าอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส จะถูกโค่นล้มลงจากอำนาจเมื่อปี 2529 และต้องไปลี้ภัยอยู่ในรัฐฮาวาย สหรัฐฯ แต่ครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอส ยังคงทรงอิทธิพลในฟิลิปปินส์ มีกลุ่มผู้ภักดีทำงานในแวดวงราชการ การเมืองและธุรกิจ สำหรับภรรยาของอดีตประธานาธิบดีมาร์กอสคือนางอิเมลดา เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา 4 สมัย ส่วนอีมี มาร์กอส ลูกสาว ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกันหลายฝ่ายคาดว่าลูกชายคือนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ จะลงสมัครประธานาธิบดีในปี 2565



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X