ตกแต่งพรรณไม้งดงามรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เส้นทางเสด็จฯ เลียบพระนคร
บรรยากาศรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ในพื้นที่การเตรียมความพร้อมในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ตลอดถนนราชดำเนินกลาง และ บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ มีการประดับตกแต่งด้วยไม้ดอก ไม้ประดับนานาพรรณ ให้สวยงาม สมพระเกียรติ และแต่งเป็นรูปจำลองเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ด้วยดอกกล้วยไม้สีเหลืองอร่าม และแซมด้วยดอกกล้วยไม้สีม่วง รอบบริเวณยังมีการประดับอักษร ทรงพระเจริญ โดยหากถ่ายภาพบริเวณจุดนี้ ยังจะได้รับชมความงามของโลหะปราสาทด้านหลังอีกด้วย ส่วนพรรณไม้โดยรอบมีทั้ง ดอกหงอนไก่ ดอกผีเสื้อ กล้วยไม้ บานชื่น เช่นเดียวกับบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ นานาพรรณสีสันสวยงาม
ประชาชนที่ต้องการเข้าเฝ้าฯ ต้องผ่านจุดคัดกรอง 19 จุด
ประชาชนที่จะเดินทางที่ต้องการมาร่วมชมความงานของริ้วขบวนเรือ ในวันนี้ กรุงเทพมหานคร(กทม.) อำนวยความสะดวก ทั้งรถสุขาเคลื่อนที่ และจัดที่พักนั่งรอสำหรับประชาชนที่ต้องการเข้าเฝ้าฯ ต้องผ่านจุดคัดกรอง 19 จุด ได้แก่ 1.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 2. ใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งพระนคร) 3. พิพิธบางลำพู 4. ทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 5. พระแม่ธรณีบีบมวยผม 6. สนามหลวง (ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) 7. สนามหลวง (ด้านศาลฎีกา) 8. ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า (ฝั่งพระนคร) 9. ท่าพระจันทร์ 10. แยกท่าเตียน 11. หน้าวังสราญรมย์ 12. ใต้สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) 13. เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า (ฝั่งธนบุรี) 14. ทางเข้าท่ารถไฟ 15. หน้าอุทยานสถานพิมุข 16. ท่าเรือวังหลัง 17. ทางเข้าวัดระฆังโฆสิตาราม 18. ปากซอยวัดอรุณราชวราราม และ 19. วัดกัลยาณมิตรฯ ขอให้ประชานเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนให้พร้อม เพื่อเข้าร่วมงาน
นครบาล ให้ปชช.เข้าพื้นที่ 09.00น. ถ่ายทอดสดทั่วโลก 177 ประเทศ
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดจุดคัดกรองและจุดบริการประชาชนครอบคลุมพื้นที่จัดงาน แบ่งเป็น 6 โซน ประกอบด้วย จุดคัดกรอง 20 จุด, จุดจอดรถรอบนอก 27 จุด และจุดลงรถ Shuttle Bus 9 จุด, พื้นที่รองรับประชาชน 16 พื้นที่ และจุดรับเสด็จ 253 พื้นที่, จุดตั้งโรงครัวพระราชทาน 6 จุด, จุดจอดรถสุขา 20 จุด และจุดบริการทางการแพทย์ 38 จุด เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว ทางการข่าวยังไม่มีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
ประชาชนที่จะมาร่วมชมพระราชพิธี สามารถเข้าพื้นที่ได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ระหว่างที่เข้ามาในพื้นที่สามารถชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ บริเวณสนามหลวง จะเริ่มปิดการจราจรโดยรอบพื้นที่จัดงานเวลา 12.00 น. ส่วนชาวต่างชาติให้เตรียมพาสปอร์ตเพื่อเข้าจุดคัดกรองบริเวณพื้นที่จัดงาน อย่างไรก็ตาม พระราชพิธีประวัติศาสตร์ครั้งนี้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก 177 ประเทศ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 15.15 น.
วธ.จัดทำหนังสือจดหมายเหตุ วิดีทัศน์พระราชพิธีทุกขั้นตอน
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในการเสด็จฯเลียบพระนครในวันนี้ เป็นพระราชพิธีที่สำคัญในการเผยแพร่ภาพการเสด็จพระราชดำเนินซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ของชาติ กระทรวงวัฒนธรรมจะร่วมบันทึกภาพแห่งความประทับใจจัดทำหนังสือจดหมายเหตุ และวิดีทัศน์ของพระราชพิธีทุกขั้นตอน แจกให้กับห้องสมุด และสถาบันการศึกษาต่างๆ
พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวว่า บก.ป.ทำโครงการจิตอาสา "หนังสือเสียงขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เพื่อคนพิการทางสายตา" เพื่อให้คนไทยผู้พิการทางสายตากว่า 7 แสนคน ชื่นชมพระราชพิธีสำคัญซึ่งใช้หนังสือชื่อ "ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม" ที่คณะสงฆ์วัดอรุณราชวรารามฯ จัดทำขึ้น ผู้พิการทางสายตา สามารถเข้าไปฟังได้ทาง www.tab2read.com หรือแอปพลิเคชั่น tab2read mobile
13 ธ.ค.นายกฯ ดูการก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่ เร่งจ่ายค่าเวนคืน
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมอบค่าเวนคืนที่ดินและดูความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม ณ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ตอนที่ 14 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม โครงการมีจุดเริ่มต้นต่อเนื่องจากทางหลวงหมายเลข 9 สายกาญจนาภิเษก ถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ผ่านพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี, อ.นครชัยศรี, อ.เมือง จ.นครปฐม, อ.ท่ามะกา และไปสิ้นสุดที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ระยะทางรวม 96.41 กิโลเมตร ลักษณะโครงการเป็นทางหลวงพิเศษขนาด 4 ถึง 6 ช่องจราจร มูลค่าโครงการรวม 55,927 ล้านบาท
โครงการนี้มีปัญหาจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือการเวนคืนพื้นที่เพื่อใช้ก่อสร้าง เนื่องจากราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้งบประมาณบานปลาย บางช่วงจึงไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ โดยการก่อสร้างงานโยธาอยู่ที่ร้อยละ 25.08 ช้ากว่าแผนงานที่กำหนดประมาณร้อยละ 56.00 คณะรัฐมนตรี(ครม.) จึงได้อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงิน จัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติมอีก 12,032 ล้านบาท จากที่เคยอนุมัติให้แล้ว 5,420 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ใช้เวนคืนกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท กรมทางหลวง แจ้งผู้ถูกเวนคืนให้มาทำสัญญารับเงินและสามารถจ่ายเงินได้จนครบทุกรายไม่เกินสิ้นปีนี้ ประกอบด้วยที่ดิน 2,563 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 1,118 ราย และต้นไม้ 890 ราย รวมทั้งสิ้น 4,571 ราย เป็นจำนวนเงิน 12,032 ล้านบาท หลังจากจ่ายค่าเวนคืนเสร็จเรียบร้อย ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างงานโยธาทั้ง 25 ตอน จะระดมเครื่องจักรเข้าพื้นที่ทันที และกรมทางหลวงได้ปรับแผนงานเร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2566 และจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปลายปี 2566
‘เปรมชัย’ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 7 คดีล่าเสือดำ
ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นัดคู่ความมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลย ความผิดเกี่ยวกับการล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต การครอบครองซากสัตว์ป่า และมีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน คดีนี้เกิดจากที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุมนายเปรมชัย พร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลางเป็นซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดวันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2561
หลังจากสอบพยานโจทก์และจำเลยเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยได้ยื่นแถลงการณ์ปิดคดีนี้ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2562 จากนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมิได้พิพากษาคดีไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 ทำให้อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในวันนี้
ผลการตัดสินของศาลชั้นต้น ศาล ตัดสินลงโทษจำเลยที่ 1 นายเปรมชัย จำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษา จำคุก 6 เดือน ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 2 เดือน
ส่วนจำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือ ถูกลงโทษจำคุก 13 เดือน จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอรอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ รวมโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน นอกจากนี้ ศาลสั่งให้จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 2 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561
ศาลอุทธรณ์ พิจารณาคดีเล่าต๋า นักค้ายาเสพติดระดับชาติ
ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีนี้ อัยการ ฟ้องนายเล่าต๋า แสนลี่ อายุ 79 ปี นักค้ายาเสพติดระดับชาติ,นางอาส่าหม่า แสนลี่ อายุ 69 ปี ภรรยา, นางรพีกาญจน์ หรือจันทร์ฉาย หรือไก่ ภพเพชรลักษณ์ หรือทรายมูล อายุ 59ปี นายวิจารณ์ แสนลี่ อายุ 43 ปี บุตรชายของนายเล่าต๋า อดีตกำนัน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และนายบารมี บารมีเกื้อกูล อายุ 40 ปี ร่วมกันสมคบและร่วมกันจำหน่ายไอซ์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 คดีนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กันยายน – 11 ตุลาคม 2559 นายเล่าต๋า นางอาส่าหม่า และนางรพีกาญจน์ จำเลยที่ 1-3 ได้จำหน่ายไอซ์ หนัก 994 กรัมเศษ ให้กับสายลับ ราคา 550,000 บาท และพวกจำเลยจัดหาไอซ์ ชนิดผลึกสีขาว จำนวน 20 ถุง หนัก 19 กก.เศษ จำหน่ายให้สายลับที่เข้าล่อซื้ออีกในราคา 11 ล้านบาท ศาลชั้นต้นจำคุกนายเล่าต๋า จำเลยที่ 1 ตลอดชีวิต ปรับ 2.5 ล้านบาท นางอาส่าหม่า จำเลยที่ 2 จำคุก 25 ปี ปรับ 2.5 ล้านบาท จำเลยที่ 3 จำคุกตลอดชีวิต ปรับ 5 ล้านบาท ส่วนนายวิจารณ์ อดีตกำนัน จำเลยที่ 4 ประหารชีวิต และฐานพาอาวุธปืน ปรับ 1,000 บาท ส่วนนายบารมี จำเลยที่ 5 ให้ประหารชีวิต จำเลยยื่นอุทธรณ์ เบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำมาฟังคำพิพากษาในชั้นศาลอุทธรณ์
CR:ภาพจากฝ่ายประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานคร