ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 19.25น.วันอังคารที่ 22 ตุลาคม2562

22 ตุลาคม 2562, 20:13น.


ค่า PM 2.5 ที่จ.สมุทรปราการ มีผลกระทบต่อสุขภาพ 



         ตลอดทั้งวันพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) และปริมณฑล มีฝุ่นและหมอกควันปกคลุมเกือบทุกพื้นที่ กรมควบคุมมลพิษ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่ วันที่ 22 ตุลาคม 2562 ช่วงเวลา 18.00 น. พบปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 33-93 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินเกณฑ์มาตรฐานหลายจุด สูงสุดที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พุ่งสูงขึ้น 97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ



          จ.สมุทรปราการ เพิ่มความเข้มงวด ตั้งจุดตรวจสอบ ตรวจจับควันดำ โดยเฉพาะรถโดยสาร รถบรรทุก เฝ้าระวังการระบายมลพิษทางอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยง กำชับให้หน่วยงานภายใต้สังกัดตรวจสอบรถ เรือ ไม่ให้มีการระบายควันดำ และฉีดล้างทำความสะอาดถนน เพื่อลดฝุ่นละอองในพื้นที่ 



         ขณะที่พื้นที่กทม.พบค่าฝุ่นละอองสูงสุดบริเวณเขตบางคอแหลม 85 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาเขตภาษีเจริญ และเขตบางพลัด 69 และ 66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนเขตธนบุรี  คลองสาน บางกอกน้อย บางขุนเทียน ปทุมวัน สาทร บางซื่อ ยานนาวา สัมพันธวงศ์ คลองเตย และหลักสี่ เฉลี่ย 62-52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น



ภาคประชาชน ขานรับมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย แบน 3 สาร



        นายวิฑูรย์  เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี  (ไบโอไทย) กล่าวว่า เครือข่ายสนับสนุนการแบนสารเคมีอันตรายร้ายแรง 686 องค์กร รู้สึกพอใจกับมติแบนสารเคมีอันตราย 3 สารเคมีทางการเกษตร คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นประโยชน์กับเกษตรกรและผู้บริโภค แต่ก็ต้องตระหนักว่าเกษตรกรคือผู้ที่จะต้องรับภาระในการปรับเปลี่ยน โดยเฉพาะเกษตรกรที่แสดงความจำนงว่าจะใช้สาร 3 ชนิดนี้ จึงอยากเรียกร้องว่าหากมีต้นทุนจากการปรับเปลี่ยนนี้ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะต้องช่วยกันสนับสนุนแบ่งเบาภาระ เพื่อไม่ให้เกษตรกรต้องรับภาระจากการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ สำหรับเรื่องสารทดแทนเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะต้องดำเนินการ แต่ความเห็นคือไม่น่ามุ่งเป้าไปที่การใช้สารทดแทน แต่ควรหาวิธีการทดแทน คือ1.ใช้เครื่องมือกลและเครื่องจักรกลทางการเกษตร 2.เรื่องการปลูกพืชคลุมดิน และ3.การจัดระบบการปลูกพืชแบบผสมผสาน



หุ้นไทย ดีดตัวขึ้นมีแรงซื้อกลุ่มพลังงาน-แบงก์หนุน



          การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดที่ระดับ 1,631.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.68 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,840.69 ล้านบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดี หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงไปค่อนข้างแรง จากความกังวลการส่งออกของไทยที่ชะลอตัว วันนี้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มไฟฟ้าเข้ามาผลักดันตลาด รวมถึงเริ่มมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เข้ามาด้วย หลังจากราคาปรับลดลงจนเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ประกอบกับนักลงทุนก็รับรู้ปัจจัยลบของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไปบ้างแล้ว ทำให้เริ่มเห็นราคาหุ้นกลุ่มนี้ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น และติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2562 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยออกมาในช่วงนี้ สำหรับปัจจัยภายนอกประเทศนับว่าค่อนข้างดี กรณีการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ตลาดเชื่อว่า น่าจะเป็นการออกจากอียูแบบมีข้อตกลง ขณะที่สงครามทางการค้าระหว่างประเทศจีน และสหรัฐฯ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการ 1 วันในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันปิยมหาราช และจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 24 ต.ค. การลงทุนในตลาดหุ้นฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 60.52 จุด ปิดที่ 26,786.20 จุด ส่วนดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดทำการเนื่องจากสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นเสด็จขึ้นครองราชย์ 



สามี ‘หนิง ปณิตา’นำหลักฐานครอบครองรถหรูให้ตำรวจ



          กรณี “หนิง” ปณิตา ธรรมวัฒนะ ดารานักแสดงหญิง โพสต์อินสตาแกรม ระบุ กำลังขับรถสปอร์ตหรูมาเซราติไปเข้าฉากที่กองละครแล้วถูกตำรวจจราจรเรียกเพราะขับรถฝ่าเส้นทึบ โดยมีถ้อยคำวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานเจ้าหน้าที่ตำรวจจนมีการตรวจสอบที่มาของรถหรูคันดังกล่าว นายจรินทร์ หรือจิน ธรรมวัฒนะ สามีของ หนิง ปณิตา ได้นำเอกสารหลักฐานการครอบครองรถยนต์หรูคันดังกล่าวมามอบให้พนักงานสอบสวนที่สน.วิภาวดี นายจรินทร์ กล่าวว่า ได้ซื้อรถคันนี้มาเป็นปีๆแล้วอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งน่าจะเป็นมือที่ 2 หรือ 3 แล้ว ตอนนี้มีทะเบียนใหม่แล้ว แต่ยังไม่ได้นำมาใช้ และเมื่อก่อนก็ยังใช้รถคันนี้อยู่ แต่เจ้าของเก่าจะเอาเล่มคืน ตนก็เลยโอนคืนให้ไป ซึ่งเป็นสัญญาที่ทำไว้อยู่แล้ว ระหว่างที่เอารถมาก็ยังใช้สัญญาเล่มนี้อยู่ จากนี้ก็จะนำรถมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจภายหลัง



          จากการที่ได้พูดคุยกับภรรยา เจ้าตัวยอมรับว่าใจร้อนไปนิดหนึ่ง ส่วนเรื่องเกี่ยวกับรถยนต์นั้น 3-4 เดือน ภรรยาถึงจะขับครั้งหนึ่ง จึงไม่ทราบ ในส่วนตัวก็ผิดที่ไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียน และยอมรับว่าผิดจริง เพราะขับรถผิดกฎหมาย และต้องขอโทษตำรวจ กรณีนี้ไม่ควรจะเป็นเรื่องด้วยซ้ำ ส่วนโทษปรับดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ขอโทษที่ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว ทั้งที่ไม่ควรจะเป็นเรื่องปวดหัวต่อสังคม ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 3 ข้อหา หนิง  ปณิตา คือ ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร, ขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และไม่ชำระภาษีรถยนต์ประจำ



สตม.จับชายเยอรมันหนีคดีฉ้อโกง-อำพรางศพ



          พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จับกุมนายริชาร์ด สตานิชเลาส์ ครูเจอร์ (Mr.Richard Stanisluas kruger) อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาชาวเยอรมัน ตามหมายจับคดีฉ้อโกง บัตรเครดิตของประเทศเยอรมนี และหมายจับซ่อนเร้นอำพรางศพนางมาร์กูน  เชฟเฟอร์ (Mrs.Margund schaefer) อายุ77 ปี เพื่อนร่วมชาติ ยัดตู้ไม้ทิ้งคลองบางโปรง หลังสนามกีฬาเทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี หวังเงินเกษียณ เนื่องจากได้รับการประสานจากตำรวจเยอรมัน ให้ช่วยติดตามนางมาร์กูน ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการเยอรมนีได้รับแจ้งว่าสูญหาย บุตรสาวไม่สามารถติดต่อได้เกรงมารดาอาจถูกทำร้ายหรือได้รับอันตราย เมื่อตรวจสอบพบว่า เดินทางเข้าไทยพร้อมนายริชาร์ด ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 โดยนายริชาร์ด มีหมายจับประเทศเยอรมนี คดีฉ้อโกง กระทำผิดลักษณะหลอกลวงผู้หญิงสูงอายุหลายครั้ง และมีหมายจับข้อหาฉ้อโกงบัตรเครดิต 17 กระทง รวมเป็นเงิน 6,000 ยูโรหรือประมาณ 240,000 บาท จึงติดตามหาและจับกุมที่ห้องเช่าในจังหวัดชลบุรี ซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาหญิงไทย ตรวจสอบพบว่าวีซ่าหมดอายุ ตั้งแต่ 22 มิ.ย. 2560 จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.แสนสุข 



          นายริชาร์ด ให้การว่า อาศัยอยู่กับภรรยาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 หลังเดินทางมากับนางมาร์กูน โดยใช้เงินที่โอนมาจากประเทศเยอรมนีเดือนละหลายหมื่นบาท ส่วนหนึ่งเป็นเงินเกษียณของนางมาร์กูนต่อมาประมาณต้นเดือนมกราคม 2562 นางมาร์กูน ได้ล้มในห้องน้ำจึงพามานอนพักและทราบภายหลังว่าเสียชีวิต จึงนำผ้าห่มมาห่อศพแล้วยัดใส่ตู้ลังไม้ใส่ของ จากนั้นได้นำศพใส่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างหรือซาเล้ง ขับไปทิ้งที่คลองบางโปรง หลังสนามกีฬาเทศบาลเมืองแสนสุข แต่จากการสอบปากคำภรรยาคนไทยของนายริชาร์ด ระบุ ก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน 



          ต่อมาปรากฏว่าเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2562 มีข่าวพบศพหญิงนิรนามถูกยัดใส่ตู้ลังไม้ลอยน้ำจากการสืบสวนพิสูจน์ทราบเชื่อว่าศพดังกล่าวคือนางมาร์กูน จึงได้ประสาน ผบช.ภ.2 และตำรวจประเทศเยอรมนี ร่วมพิสูจน์หลักฐานในคดีดังกล่าว ซึ่งอยู่ในระหว่างตรวจสอบผลดีเอ็นเอ และประวัติการทำฟันผู้ตาย สภ.แสนสุข จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดชลบุรีออกหมายจับนายริชาร์ด ในข้อหา ซ่อนเร้นอำพราง ย้าย หรือทำลายศพฯ และได้แจ้งข้อกล่าวหา อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายริชาร์ดเดินทางเข้าออกประเทศไทย จำนวน 9 ครั้ง โดย 7 ครั้งเดินทางมากับนางมาร์กูน มาทำธุรกิจ สถานบันเทิง ที่พัทยา แต่ขาดทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำว่านางมาร์กูนเสียชีวิตจากฆาตกรรมหรือไม่ และรอผลการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป



CR:สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร 



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X