อัยการ แจงคดีขับรถชนตำรวจเมื่อปี2555ล่าช้าเพราะผู้ต้องหาไม่มาพบอัยการ

ความคืบหน้ากรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลิ่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 แต่การดำเนินคดีในบางคดีล่าช้าจนขาดอายุความ  เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงว่า คดีนี้อัยการสูงสุดมีความเห็นแย้งกับพนักงานสอบสวน โดยสั่งฟ้องนายวรยุทธ 3 ข้อหา คือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอายุความ 15 ปี , ข้อหาชนแล้วหนี อายุความ 5 ปี, และ ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ซึ่งแม้ว่าข้อหาขับรถเร็วจะหมดอายุความไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2556 แต่ก็เป็นเพียงข้อหาเล็กที่มีโทษปรับเพียง 1,000 บาท อีกทั้งยังเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวที่ผิดต่อกฏหมายหลายบท ซึ่งตามกฏหมายจะให้ลงโทษตามบทหนักสุด คือตามข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ซึ่งยังไม่หมดอายุความ

 

ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า กรณีข้อหาเมาแล้วขับที่สั่งไม่ฟ้องนั้น ก็เนื่องมาจากแพทย์ระบุว่า แพทย์ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของนายวรยุทธได้ 64.48 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อเวลาประมาณเกือบ 17 นาฬิกาของวันเกิดเหตุ ดังนั้นขณะเกิดเหตุที่เป็นเวลา 5 นาฬิกา นายวรยุทธจะต้องมีระดับแอลกอฮอล์สูงถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น ซึ่งน่าจะสลบไม่สามารถขับขี่รถได้ สอดคล้องกับที่นายวรยุทธอ้างว่าดื่มหลังจากเกิดเหตุไปแล้ว ดังนั้นพยานหลักฐานจึงไม่เพียงพอเอาผิดได้ นอกจากนี้นายประยุทธยังยืนยันว่าอัยการสูงสุดไม่มีการค้าสำนวน แต่เหตุที่คดีล่าช้าเนื่องมาจากนายวรยุทธไม่มาพบอัยการตามนัดส่งฟ้อง โดยให้ทนายความมาขอเลื่อนนัดก่อนข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดจะขาดอายุความเพียง 1 วัน โดยอ้างว่าป่วยกระทันอยู่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอัยการเห็นว่าเป็นการประวิงเวลาและออกหมายจับนายวรยุทธไว้แล้ว 1 หมาย นอกจากนี้ทนายของนายวรยุทธยังอ้างประเด็นใหม่ให้สอบสวนเพิ่มเติม ทำให้พนักงานสอบสวนเพิ่งจะส่งสำนวนฉบับสมบูรณ์มาให้อัยการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้หากนายวรยุทธยังไม่มาพบอัยการตามนัดส่งฟ้อง 2 ข้อหาหนักที่เหลือ ก็จะต้องขอให้ศาลออกหมายจับ เพื่อนำตัวนายวรยุทธมาฟ้องตามกฏหมาย.

..

ผสข.พนิตา สืบสมุทร