เมืองไทยฯ(1):ปั่นเพื่อแม่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม/กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญประชุมทบทวนถ้อยคำ

17 สิงหาคม 2558, 07:41น.


สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวนรถจักรยานในกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ "Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่" จากพระลานพระราชวังดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 15.17 น.และกลับถึงพระลานพระราชวังดุสิตในเวลา 19.09 น. รวมระยะทาง 43 กิโลเมตร และเมื่อจบจากกิจกรรมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ ทอดพระเนตรการแสดงคอนเสิร์ต "บทเพลงเพื่อแม่" นอกจากนี้ ทุกจังหวัดทั่วประเทศก็ร่วมกันจัดกิจกรรมนี้พร้อมกัน



น.ส.ลูเซีย ซีนีกาเยซี่ ตัวแทนจาก "กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด" ถวายใบรับรองผลการทำสถิติโลกปั่นจักรยานหมู่ด้วยจำนวนคนที่มากที่สุดอย่างไม่เป็นทางการคือ 136,411 คัน แด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์รับมอบบนเวทีคอนเสิร์ต "บทเพลงเพื่อแม่" จากนั้นอีกประมาณ 1 เดือนจึงจะมีการมอบใบรับรองอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง



ในวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้โอกาสก่อนการประชุม แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบอย่างเป็นทางการว่า จะมีการปรับครม.โดยจะปรับใหญ่ มีทั้งการสลับตำแหน่ง มีคนเข้าใหม่จำนวนหนึ่ง แทนผู้ที่เต็มใจออกจากตำแหน่งทั้งคาดว่าจะมีการแต่งตั้งพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย



ด้านการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวันนี้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญประชุมทบทวนถ้อยคำเป็นครั้งสุดท้าย



จากนั้นในวันที่ 19-20 สิงหาคม คณะ กมธ.ยกร่างฯ ได้เชิญตัวแทนของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) รวม 8 กลุ่ม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยจะมีอำนาจตัดต่อร่างรัฐธรรมนูญได้จนถึงวันสุดท้ายในวันที่ 22 สิงหาคม จากนั้นจึงจะส่งให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.และนัดวันลงมติชี้ขาดว่าจะเห็นชอบหรือไม่ ในวันที่ 7 กันยายน โดย สปช.จะมีหน้าที่เพียงการลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เท่านั้น ไม่มีสิทธิอภิปรายแสดงความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญได้อีก



ทั้งนี้ ประธาน สปช. กำหนดนัดประชุมเพื่อพิจารณาในเบื้องต้นในวันที่ 18 สิงหาคมนี้



นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 260 ให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ ซึ่งมีอำนาจเหนือฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ โดยเห็นว่า เมื่อบทบัญญัตินี้อยู่ในบทเฉพาะการ ต้องเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวที่อาจมีความจำเป็นในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ซึ่งนอกจากนี้แล้วบทเฉพาะกาล ยังกำหนดให้ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังคงทำหน้าที่ไปจนกระทั่งมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ สมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่



ส่วนกรณีที่พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เผยแพร่คลิปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งเป็นการกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รวมทั้งท้าทายให้ถอดยศโดยเร็ว นั้น พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผย ว่า การทำงานทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นบทเรียนสำคัญ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกแล้ว



ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่าไม่แปลกใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะรัฐธรรมนูญปี 2540 เพราะเป็นฉบับที่พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์



ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ให้นายประมวล ควรฦาชัย อดีตอัยการอาวุโส ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้ชนะคดี สั่งสำนักงานอัยการสูงสุด อัยการสูงสุด คณะกรรมการอัยการ แพ้คดี รวมทั้งสั่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 7 ล้าน 3 แสนบาท กรณีที่นายประมวลได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นอัยการอาวุโสในปี 2544 ขณะที่อายุจะครบ 65 ปี ในปีงบประมาณ 2549 แต่คณะกรรมการอัยการในขณะนั้นซึ่งมีนายพชร ยุติธรรมดำรง เป็นอัยการสูงสุดได้มีมติภายหลังการประเมินว่า นายประมวลไม่มีสมรรถภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการอาวุโส เพราะเคยถูกลงโทษทางวินัย 3 ครั้ง เป็นผู้ไม่มีคุณธรรมและจริยธรรมจึงขาดคุณสมบัติ  โดยศาลมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยเห็นว่าการออกคำสั่งต่างๆ กระบวนพิจารณาคดี การใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการอัยการ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งคำ "สมรรถภาพ" หมายถึงสามารถหรือความสามารถ ไม่รวมถึงการถูกลงโทษทางวินัย จึงพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ให้สำนักงานอัยการสูงสุดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยใช้คืนเงินเดือน เงินประจำตำแหน่งและเงินค่าครองชีพให้แก่นายประมวล



 *-*



 

ข่าวทั้งหมด

X