หลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) มีมติเอกฉันท์ให้พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 11 พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้แถลงข่าวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ได้เป็นผู้เสนอชื่อ พล.ต.อ. จักรทิพย์ เข้าที่ประชุม ก.ต.ช. ซึ่งตามระเบียบ ต้องให้ผบ.ตร. คนปัจจุบันเป็นผู้เสนอชื่อให้คณะกรรมการ ก.ต.ช. พิจารณา โดยที่ประชุม ก.ต.ช. วันนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ต.ช. ได้มอบหมายให้พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมแทน
ในที่ประชุม ก.ต.ช. พลเอกประวิตร งดออกเสียง เนื่องจากอยู่ในฐานะประธานการประชุม ทำให้มีมติเอกฉันท์ 5 ต่อ 0 ให้เลือกพล.ต.อ. จักรทิพย์ เป็นผบ.ตร. คนต่อไป ผบ.ตร. ให้เหตุผลในการเลือกพล.ต.อ. จักรทิพย์ เป็นผบ.ตร. คนที่ 11 ว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน และสามารถทำงานสนองนโยบายของรัฐบาลได้ เห็นได้จากการทำงานร่วมกันมา 1 ปี เชื่อว่าพล.ต.อ. จักรทิพย์มีความเหมาะสมที่สุด มีความสามารถในทุกด้าน ทั้งเรื่องการสืบสวน สอบสวน คุมกำลังพล และตำแหน่งที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ เป็นตำแหน่งที่สำคัญทั้งหมด ได้รับผิดชอบงานสำคัญด้านความมั่นคง และสามารถคลี่คลายคดีสำคัญต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
สำหรับวิสัยทัศน์ของ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ได้แสดงไว้อย่างครอบคลุม ซึ่งในที่ประชุม ก.ต.ช. ไม่ได้นำประเด็นความอาวุโสมาพิจารณา แต่พิจารณาจากความเหมาะสม และเชื่อว่าความอาวุโสจะไม่เป็นอุปสรรคในการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะว่าการปกครองขึ้นอยู่กับศิลปะและวิธีการในการปกครองของแต่ละคน และพล.ต.อ. จักรทิพย์ก็ผ่านการปกครองผู้อาวุโสกว่ามาก่อน
ส่วนเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้เสนอใครเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ก่อนหน้านี้ตัวเองได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรี มีการนำจุดแข็ง จุดอ่อน จุดด้อย ของผู้แสดงวิสัยทัศน์ทั้ง 5 คน ไปให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พิจารณา ให้คำแนะนำ แต่ไม่ได้สั่งให้ดำเนินการใดๆ เป็นพิเศษ
นอกจากนี้หลังการประชุม ก.ต.ช. ตัวเองได้เจอกับพล.ต.อ. จักรทิพย์ที่อาคารรัฐสภาแล้ว ซึ่งเป็นการประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และพล.ต.อ. จักรทิพย์ได้ยกมือไหว้ขอบคุณตัวเอง แต่ไม่ได้คุยอะไรกัน ทั้งนี้อยากฝากไปถึงพล.ต.อ. จักรทิพย์ให้ตั้งใจทำงานในตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด เพราะเป็นความหวัง และอยากฝากดูแลเพื่อข้าราชการทั้งหมด รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองไม่สามารถดำเนินการเสร็จได้ทันในยุคของตัวเอง
สำหรับการถอดยศ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะพยายามดำเนินการให้เสร็จทันในยุคของตัวเอง เพราะไม่อยากให้เป็นที่ครหาว่าตัวเองเตะถ่วงงาน และไม่อยากให้การทำงานของผบ.ตร. คนใหม่สะดุดลง
นอกจากนี้พล.ต.อ. สมยศ ยังได้กล่าวว่าในที่ประชุม ก.ต.ช. ได้มีวาระเรื่องการเยียวยาพล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งในที่ประชุมได้นำเสนอความคิดเห็นที่หลากหลาย และเห็นว่ายังมีอีกหลายประเด็น เช่นประเด็นศาลปกครองที่ยังมีข้อคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไม่ครบถ้วน ที่ประชุมจึงมีมติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข