จุดความร้อนในไทยขึ้นนำอันดับ 1 ในกลุ่มเพื่อนบ้านกว่า 3.7 พันจุด อยู่ในป่าอนุรักษ์มากที่สุด

01 มีนาคม 2566, 11:21น.


          การตรวจสอบเรื่องจุดความร้อน GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน) รายงานว่า GISTDA เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP)



-เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 ไทย พบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นนำอันดับ 1 จำนวน 3,768 จุด (สูงสุดตั้งแต่ 1 ม.ค.66 เป็นต้นมา)



-ตามด้วย สปป.ลาว 3,370 จุด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จำนวน 2,809 จุด กัมพูชา 2,758 จุด และเวียดนาม 732 จุด



          จุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,937 จุด, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,043 จุด, พื้นที่เกษตร 280 จุด, พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 271 จุด, พื้นที่เขต สปก. 219 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 18 จุด



-ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 5 อันดับ คือ กาญจนบุรี 577 จุด, ตาก 495 จุด อุตรดิตถ์ 237 จุด น่าน 212 จุด และแพร่ 190 จุด ตามลำดับ



 -จากการรวบรวมจำนวนจุดความร้อนในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 –28 ก.พ.66 พบแล้วกว่า 52,000 จุด



          ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 10.00 น. พบว่าในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย น่าน ลำพูน พะเยา ลำปาง และแพร่ อยู่ในระดับสีแดงที่มากกว่า 90 ไมโครกรัม ซึ่งมีผลต่อสุขภาพแล้ว ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อยู่ระดับสีส้มที่เริ่มจะมีผลต่อสุขภาพ ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา



        สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจาก ได้รับอิทธิพลจากกระแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้ทันทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน "#เช็คฝุ่น"





#จุดความร้อน



CR:ขอบคุณข้อมูล-ภาพ GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(องค์การมหาชน)



 

ข่าวทั้งหมด

X