หลังจากที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ให้เวลาเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐบาลกลาง 30 วันในการลบแอปพลิเคชัน TikTok ออกจากอุปกรณ์สื่อสารของรัฐบาลกลางทั้งหมดด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
ด้านรัฐสภายุโรปมีมติให้เจ้าหน้าที่รัฐลบแอปพลิเคชัน TikTok ออกจากอุปกรณ์สื่อสารของรัฐบาลกลางทั้งหมดด้วยเหตุผลเดียวกันแล้ว และเป็นการย้ำคำสั่งของคณะกรรมาธิการยุโรปที่สั่งห้ามพนักงานติดตั้ง TikTok บนอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน
แอปพลิเคชัน TikTok ของไบท์แดนซ์ (ByteDance) จากประเทศจีน ถูกประเทศตะวันตกตรวจสอบมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลว่าจะเป็นช่องทางให้จีนสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งาน
โดยเมื่อวันจันทร์ (27 ก.พ.66) แคนาดาประกาศห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ TikTok บนอุปกรณ์สื่อสารของรัฐบาล โดยระบุว่ามีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในระดับที่ “รับไม่ได้” และนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แนะนำว่า เอกชนและประชาชนทั่วไปสามารถพิจารณาลบแอปพลิเคชันนี้ออกจากอุปกรณ์ของบริษัทหรือส่วนตัวได้
จากนั้น อินเดียและไต้หวันมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐลบ TikTok จากอุปกรณ์ของรัฐบาลเช่นกัน
และเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) รัฐสภาของเดนมาร์กประกาศให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเจ้าหน้าที่ทุกคนลบแพลตฟอร์ม “แบ่งปันวิดีโอ” ออกจากอุปกรณ์พกพาเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการถูกสอดแนม
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน และอุปกรณ์สื่อสารจากจีนมานานแล้ว หน่วยงานของสหรัฐฯ หลายแห่งรวมถึงกระทรวงกลาโหม ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และอีกหลายมลรัฐมีข้อห้ามอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งนักการเมืองทั้งรีพับลิกันและเดโมแครตต่างพยายามผลักดันให้มีการห้ามใช้แอปพลิเคชันนี้ในสาธารณะต่อไป ทำให้ทางการจีน ตอบโต้ว่า ความเคลื่อนไหวเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นคงของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และเป็นการใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิด
นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามขยายแนวคิดเรื่องความมั่นคงของชาติมากเกินไป มีการใช้อำนาจรัฐในทางมิชอบเพื่อควบคุมการดำเนินธุรกิจของประเทศอื่น
ขณะที่ TikTok ชี้แจงว่า ความกังวลของสหรัฐฯและชาติตะวันตกเกิดจากข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง และยืนยันว่าแอปพลิเคชันนี้คือการแบ่งปันคลิปวิดีโอสั้น ไม่สามารถสอดแนมข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกัน
…
#แบนTikTok
#ยุโรป
ภาพ Shutterstock