ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเดนิส ชไมฮาล ของยูเครน กล่าวว่า การขาดดุลงบประมาณของยูเครนในปีนี้จะสูงถึง 38,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมหวังว่า สหรัฐฯจะให้การช่วยเหลือด้านการเงินกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับยูเครนภายในเดือนกันยายนนี้ เพิ่มเติมจากความช่วยเหลือที่รัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติแล้วคือ งบประมาณสำหรับช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้น 1,500 ล้านดอลลาร์ และงบอีกก้อนหนึ่งรวม 1,100 ล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยเหลือด้านการซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคด้านพลังงาน เช่น โรงไฟฟ้าของยูเครน ซึ่งเสียหายจากการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธจากรัสเซียในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยูเครนจะเสนอแผนงบประมาณประจำปี 2566 ต่อองค์กรอื่นๆเช่น กลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก(กลุ่มจี7) ตลอดถึงองค์กรการเงินระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)และธนาคารโลก เพื่อขอความสนับสนุนด้านการเงินแบบให้เปล่าในปีนี้เช่นเดียวกัน
นายชไมฮาล แถลงเรื่องนี้ หลังประชุมกับนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงเคียฟเมื่อวานนี้(27 ก.พ.66) โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ระบุว่า สหรัฐฯ เป็นผู้นำในบรรดาหุ้นส่วนทั้งหมดที่ให้การช่วยเหลือด้านการเงิน คือสหรัฐฯให้ความช่วยเหลือด้านการเงินรวม 13,000 ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลยูเครน ได้นำไปจัดสรรในโครงการสาธารณสุข การศึกษา การช่วยเหลือด้านสังคมและมนุษยธรรมของยูเครน
นายชไมฮาล กล่าวว่า เขาและนางเยลเลนได้พูดคุยเรื่องอื่นๆ เช่น ผลกระทบทางการเงินและผลจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่มีต่องบประมาณของรัสเซีย ตลอดถึงแนวทางการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม เช่น การห้ามส่งออกสินค้าไฮเทคต่างๆไปที่รัสเซีย เนื่องจาก สินค้าดังกล่าวอาจจะถูกใช้ในทางกลาโหมของรัสเซีย
ด้านนางเยลเลน กล่าวถึง เศรษฐกิจรัสเซียว่า เศรษฐกิจรัสเซีย ยังคงแข็งแกร่งมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งๆที่รัสเซียจะถูกสหรัฐฯและกลุ่มอียูคว่ำบาตรตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เธอ เชื่อว่า ความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของรัสเซียจะค่อยๆอ่อนแอลงในระยะยาว เช่น การลงทุนต่างชาติจะหมดไป อีกทั้งเงินคงคลังและงบฉุกเฉินต่างๆของรัสเซียจะลดลงในระยะยาว ซึ่งจะกระทบต่อความสามารถในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆมาทดแทนอาวุธเก่าๆที่เสียหายจากการสู้รบในยูเครน
#ยูเครน
#สหรัฐฯช่วยเหลือด้านการเงิน
#แผนงบประมาณ