หลังเกิดเหตุนักเรียนใน อ.เมือง จ.ชัยภูมิกว่า 300 คน มีอาการป่วยจากอาหารเป็นพิษ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ชัยภูมิ สอบสวนโรคแล้ว พบว่า เกิดจากเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนในอาหาร คือ เชื้อโนโรไวรัส ซึ่งพบได้ตั้งแต่ในน้ำ น้ำแข็ง เครื่องดื่ม เบื้องต้นเข้าใจว่าเป็นแหล่งผลิตของน้ำหรือน้ำแข็ง ซึ่งทีมกำลังไปดู และแนะนำว่า น้ำต้องทำให้สะอาดต้มสุก ป้องกันการติดเชื้อที่ปนเปื้อน หากดูแลความสะอาดส่วนบุคคลและส่วนประกอบของอาหารจะช่วยป้องกันได้ นอกจากนี้ ยังทำชุดความรู้ประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานที่มีลักษณะเป็นกลุ่มผ่านกลไก สสจ.ทุกจังหวัด
ส่วนการกินยาหยุดถ่ายเมื่อเกิดอาการท้องเสีย นพ.ธเรศ กล่าวว่า โดยหลักทั่วไปเราจะไม่ใช้ยาหยุดถ่ายในบุคคลทั่วไป เช่น เติมสารน้ำ เกลือแร่ เชื้อจะถูกขับออกไปทางลำไส้ การกินยาหยุดท้องเสียในบางกลุ่มต้องระวัง เช่น เด็กเล็กและผู้สูงอายุ จะทำให้เชื้อเจริญเติบโตและเป็นอันตรายมากขึ้น ยกเว้นว่าท้องเสียมากจนกระทบสุขภาพอย่างมาก เราต้องให้คู่กับยาปฏิชีวนะหรือยาบางตัว แต่โดยรวมจะรักษาประคับประคอง ให้ยาลดปวด สารทดแทนน้ำก็เพียงพอ
ขณะที่ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ฤดูร้อนจะเจอการระบาดของโรคท้องร่วงประจำจากเชื้อไวรัส นอกจากกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ การป้องกันของผู้ผลิตน้ำต้องให้ความสำคัญน้ำที่จะนำมาผลิตน้ำแข็งหรือน้ำขวดต้องมาจากแหล่งที่ไม่มีแบคทีเรียหรือไวรัสปนเปื้อนมา น้ำประปาต้องตรวจสอบปริมาณคลอรีนในน้ำประปาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะบางช่วงการผลิตน้ำประปา ระดับคลอรีนอาจจะลดต่ำ ทำให้น้ำอาจปนเปื้อนและเชื้อเจริญเติบโตได้ง่าย ต้องให้หน่วยงานต่างๆ ที่ผลิตน้ำประปาหรือน้ำขวดหรือน้ำแข็ง เน้นย้ำว่าน้ำต้องสะอาดเพียงพอ ปริมาณคลอรีนต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่วนบางพื้นที่ที่ยังใช้น้ำบาดาลอยู่ก็ต้องมีกระบวนการกรองและเติมคลอรีนด้วยเช่นกัน จึงเอามาใช้และผลิตได้
สำหรับขณะนี้ ยังพบเด็กนักเรียนกว่า 10 ราย ที่อาการหนักนอนรักษาอาการท้องร่วง ท้องเสีย หลังเด็กกินอาหารกลางวันแล้วป่วยตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.โดยเด็กนักเรียนในพื้นที่มีอาการปวดท้อง อาเจียนมีไข้ และท้องร่วงไม่หยุดติดต่อกันมากว่า 3 ครั้ง รวมแล้ว 225 ราย จากโรงเรียน 4 แห่งในพื้นที่เขตอ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งยังไม่รวมเด็กที่ป่วยรักษาตัวอยู่ตาม รพ.เอกชน ที่ยังไม่รายงานยอดตัวเลข คาดว่ามีอีกไม่น้อยกว่า 300-400 ราย
#นักเรียนติดเชื้อ
#น้ำแข็งปนเปื้อน
#โนโรไวรัส