นักลงทุน จับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) รวมทั้งการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.66 เพื่อหาสัญญาณชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
CNBC รายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 31 ม.ค.-1ก.พ.66 ว่าสมาชิกมีมติให้ต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ทำให้อัตราเงินเฟ้อของเฟดเข้าสู่ช่วงเป้าหมายที่ร้อยละ 4.50-4.75 เนื่องจาก กังวลว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูง และสูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 2 และที่ประชุมยังมีความกังวลเรื่องตลาดแรงงานด้วย
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ และนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ เปิดเผยว่า เป็นเจ้าหน้าที่เฟดที่ลงมติให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 66 แม้ว่าเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมมีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% นอกจากนี้ นายบูลลาร์ด สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.66และเชื่อว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่ทำให้สหรัฐฯเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ขณะเดียวกัน ตลาดกังวลว่าหากเฟดเคลื่อนไหวเร็วหรือไกลเกินไป อาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้
รายงานการประชุมระบุว่าสมาชิกบางคน เห็นว่าความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นเห็นว่า เฟดสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและใช้นโยบายแบบนุ่มนวลได้ เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจหดตัว
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ สงครามในยูเครน จีนเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง และความเป็นไปได้ที่ตลาดแรงงานอาจยังคงตึงตัวนานกว่าที่คาดไว้
#รายงานประชุมเฟด
CR:CNBC
แฟ้มภาพ