อดีตนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ของอังกฤษ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางรายการ Today ของสถานีวิทยุบีบีซี เรดิโอ 4 ว่าสงครามในยูเครนจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ประเมินสถานการณ์แล้วเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า เป้าหมายปฏิบัติการทางทหารในยูเครนของเขาจะไม่มีทางประสบความสำเร็จ
นายแบลร์ กล่าวว่า เป้าหมายของนายปูตินเรื่องการปฏิบัติการทางทหารในยูเครนส่อเค้าพังครืน (ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรก) เนื่องจากชาวยูเครนแสดงให้เห็นถึงความอดทนและความกล้าหาญ ขณะเดียวกันชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างต่อเนื่อง นายแบลร์กล่าวว่า ความหวังสุดท้ายของนายปูตินคือ อยากเห็นชาติตะวันตกมีปัญหาแตกแยกทางอุดมการณ์ทางการเมืองจนกระทั่งแบ่งแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย ไม่มีเอกภาพ
ด้าน ลอร์ด เฮก อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ กล่าวในรายการสัมภาษณ์เดียวกันว่าเขาเชื่อว่าหนทางยังอยู่อีกยาวไกลกว่าการสงครามในยูเครนจะสิ้นสุดลง ระบุว่า ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่น่ากลัวคือ สงครามที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะใช้เวลานานหลายปีกว่าจะสิ้นสุด เป็นเสมือนบททดสอบทั้งความอดทน และความเข้มแข็งทั้งในด้านเศรษฐกิจและยุทธวิธีทางทหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับยูเครนในขณะนี้
นายเฮก กล่าวอีกว่า การที่นายปูตินพูดเรื่องการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาเมื่อวานนี้ นับว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้อง(ไปถึงนาโต) ขณะที่นายแบลร์เสริมว่า นายปูติน ไม่อาจจะใช้วิธีข่มขู่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์เช่นนี้ เพื่อขัดขวางนาโตไม่ให้เข้ามาช่วยปกป้องยูเครนให้พ้นจากการรุกรานของรัสเซีย
#อังกฤษ
#การสู้รบในยูเครน