ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ผู้ร้อง)ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของกกต.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการประกาศจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 ซึ่งผู้ร้องคิดคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ ณ วันที่ 31 ธ.ค. ของปีที่ล่วงมา มาใช้ในการคิดคำนวณจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต่อมามีผู้แสดงความคิดเห็นโต้แย้งและขอให้ผู้ร้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
โดยศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่และอำนาจพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือองค์กรอิสระ ซึ่งการยื่นคำร้องต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 44 ประกอบมาตรา 7 (2) คือต้องเป็นปัญหาซึ่งเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจที่เกิดขึ้นแล้ว และในกรณีที่ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นกับหน่วยงานใดให้หน่วยงานนั้นเป็นผู้มีสิทธิ์ยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่า กกต.ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ส่งปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ร้องกรณีประกาศกกต.ฉบับดังกล่าว ต่อมารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางคนในคณะรัฐบาลและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางคนแสดงความเห็นโต้แย้งเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว จึงเป็นปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และหน้าของผู้ร้องที่เกิดขึ้นแล้ว และผู้ร้องส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลธรรมนูญสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย แจ้งให้ผู้ร้องทราบ หากผู้ร้องประสงค์ชี้แจงเพิ่มเติมให้ยื่นต่อศาลจำนวนภายในวันที่ 24 ก.พ.2566
จากนั้นศาลธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงไม่ทำการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กำหนดนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือ และลงมติในวันศุกร์ 3 มี.ค. 2566 เวลา 09.30น.
#กกต
ข่าวทั้งหมด