ผบ.ทรภ.1แถลงค้นหากำลังพล วันนี้เตือนคลื่นลมแรง เดินเท้าชายฝั่ง-เกาะ-ผิวน้ำ เมื่ออากาศดีขึ้น ค้นใต้น้ำ

          พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1(ผบ.ทรภ.1)  แถลงถึงปฎิบัติการค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่สูญหายและการทำงานของแต่ละฝ่าย (แถลงเมื่อคืนนี้ 25 ธ.ค.65)  ว่าขณะนี้แนวการลาดตระเวนครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ทุกพื้นที่ชายฝั่ง ทุกเกาะที่เดินได้ได้ขึ้นสำรวจทั้งหมด โดยเร่งสำรวจพื้นที่แข่งกับเวลา และครอบคลุมทั้งหมด ยังมีความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตในกลุ่มสีเขียว เช่น ร่องรอยจากแพ กองทัพเรือไม่ทิ้งพื้นที่ใด ทั้งจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง พื้นที่ในทะเลและแนวชายฝั่งได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบทั้งหมด

         การค้นหายังเข้มข้นเหมือนเดิม หมู่เรือช่วยเหลือที่ 1 ดำเนินการตามแผน ประกอบด้วย เรือหลวงตากสิน เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงนราธิวาส อากาศยานจากทุกส่วน พร้อมกำลังสมทบของทัพเรือภาคที่ 2 คือเรือ ต.270 และเรือ ต.114 ที่ จะค้นหาบนผิวน้ำ ขณะที่ เช้านี้เรือหลวงนเรศวร และเรือหลวงนราธิวาส จะออกปฎิบัติการเต็มพื้นที่เหมือนเดิม เช่นเดียวกับการปฎิบัติหน้าที่ของเรือหลวงกระบุรี และ เรือหลวงตากสิน รวมทั้งอากาศยาน UAV 2 ลำ

        ส่วนหมู่เรือช่วยเหลือที่ 2 ไม่สามารถออกปฎิบัติการได้ เนื่องจากคลื่นลมแรง หมู่เรือช่วยเหลือ ที่ 2 จะปฏิบัติภารกิจค้นหาใต้น้ำเป็นหลัก ประกอบด้วย เรือหลวงบางระจัน เรือหลวงราวี และเรือ ต.113 พร้อมทั้งประดาน้ำจากกรมสรรพาวุธทหารเรือ จำนวน 53 นาย ขณะปฎิบัติภารกิจนักประดาน้ำจะแบ่งทีมลงไปสำรวจทีละชุด ซึ่งแต่ละชุดจะปฏิบัติหน้าที่ใต้น้ำได้ไม่เกิน 15 นาที นับตั้งแต่เริ่มดำน้ำลงไปจนถึงพื้นใต้น้ำ โดยจะค้นหาได้เพียงภายนอกตัวเรือ โดยเฉพาะในวันนี้(26 ธ.ค.65) ที่คาดการณ์ว่าคลื่นลมแรงขึ้น ส่วนการค้นหาพื้นที่ใกล้ฝั่งและชายฝั่ง ได้รับความร่วมมือกับสามจังหวัด เอกชน อาสาสมัคร มูลนิธิ ทำตามแผน ส่วนใหญ่เดินเท้า เนื่องจาก คลื่นลมแรง ในส่วนการค้นหาในช่วงที่อากาศดีขึ้น หรือในช่วงกลางวัน เรือหลวงราวีและเรือหลวงบางระจัน จะดำเนินการตามแผน เนื่องจาก เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เมื่อนักประดาน้ำลงปฎิบัติงาน ลงไปแล้วต้องคุ้มค่าให้ได้มากที่สุดและปลอดภัยที่สุด

        สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 25 ธ.ค.65) เวลา 17.00 น.

-ยอดกำลังพล 105 นาย

-รอดชีวิต จำนวน 76 นาย

-เสียชีวิตรวม 18 นาย

*ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 7 นาย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ

*อยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 11 นาย ( 1 ราย ก่อนหน้านี้ที่มีรายงานว่ายังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือนั้น ขณะนี้มีหลักฐานยืนยันแล้วว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ)

-ผู้สูญหายจำนวน 11 นาย

        การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการแล้ว และมีการตรวจสอบคู่ขนานไปกับการค้นหาผู้สูญหาย มุ่งเน้นและยึดมั่นถึงข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ ใครผิดก็ต้องรับผิด “สมมุติว่าผมผิด ก็จะรับผิดในฐานะ ผบ.ทรภ.1 ถ้าผมสั่งการผิดก็จะรับผิดชอบในส่วนที่เป็นหน้าที่ เชื่อได้ว่าอะไรที่ผิดพลาดตรงไหนก็จะต้องรับผิดไปตามนั้น ไม่ผิดก็คือไม่ผิด”

        ส่วนวันนี้ เวลา13.00 น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ว่าที่ เรือเอกสามารถ แก้วผลึก พันจ่าเอกอัชชา แก้วสุพรรณ์ และ พันจ่าเอกอำนาจ พิมที ที่ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

        ในช่วงบ่าย จะมีการเคลื่อนย้ายร่างของพลทหารวรพงษ์ บุญละคร สังกัด หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานทางรักษาฝั่ง จากโรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นเครื่องบินแบบฟอกเกอร์ของกองทัพเรือ จากกองบิน 6 ไปยังสนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี จะเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภาในเวลา 15.00 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเดินทางไปร่วมในพิธีรับศพ ก่อนจะนำไปประกอบพิธีที่ฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ

#กองทัพเรือ

#เรือหลวงสุโขทัย

CR:กองทัพเรือ Royal Thai Navy,โฆษกกองทัพเรือ