นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ECB จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอาจถึงขั้นต้องจำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยชี้ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญของ ECB เหนือการลดบัญชีงบดุล ECB ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมกันทั้งหมดมากถึงร้อยละ 2 นับตั้งแต่เดือนก.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ พร้อมระบุว่าจะมีการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติมผ่านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต และลดการถือพันธบัตรรัฐบาลจากที่ปัจจุบันถือเอาไว้ 5 ล้านล้านยูโร
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวแตะร้อยละ 10.6 ซึ่งสูงเหนือเป้าหมาย ร้อยละ 2 ของ ECB อย่างมาก ทำให้แม้ว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยขึ้น ก็ไม่น่าจะผ่อนคลายแรงกดดันเงินเฟ้อได้มากพอ จน ECB หยุดปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยขณะนี้คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะถดถอยในช่วงฤดูหนาวนี
นักลงทุนคาดการณ์ว่า ECB มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ย ร้อยละ 0.50 - 0.75 ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ย ร้อยละ 0.75 ติดต่อกันสองครั้ง และเตรียมลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลตั้งแต่ครึ่งแรกของปี 2566
ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ลงสู่ระดับร้อยละ 0.50 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่บางส่วนมองว่า การที่เฟดคุมเข้มนโยบาย การเงินยาวนานมากขึ้นและปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดให้สูงขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด
#เฟดขึ้นดอกเบี้ย
#ECB