ที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ฟื้นเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก

16 พฤศจิกายน 2565, 20:45น.


          นายธานี ทองภักดี เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ปฏิบัติหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค พร้อมด้วยนางรีเบคกา สตา มาเรีย ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานเลขาธิการเอเปค แถลงร่วมกันว่า ที่ประชุม 21 เขตเศรษฐกิจมีเสียงฉันทามติขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ  FTAAP หวังให้เป็นเขตการค้าเสรีใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ และการเชื่อมโยง การค้า การลงทุนของกลุ่มเอเปค หลังจากที่ชะลอไปนาน จึงต้องการฟื้นการหารือขึ้นมาใหม่ หลังโดนแช่เย็นมานานกว่า 10 ปี เพื่อใช้ฟื้นเศรษฐกิจของเอเปคหลังโควิด-19



          นายธานี ยอมรับว่าการเจรจา FTAAP ไม่ใช่การผูกมัดข้อตกลงให้ประเทศสมาชิกต้องลดภาษีหรือสร้างอุปสรรคกีดกันทางการค้าเหมือนกับเขต RCEP หรือ CPTPP แต่จะทยอยเปิดเสรีการค้าตามความพร้อมของแต่ละประเทศ เพื่อนำไปสู่การหารือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อเสนอต่อเวทีระดับรัฐมนตรีและเวทีผู้นำเอเปค เป้าหมายการหารือเขตการค้าเสรีกลุ่มเอเปค หรือ  FTAAP นับเป็นความร่วมมือพหุภาคีที่สำคัญของโลก ซึ่งมูลค่า GDP รวมกันร้อยละ 61 ของทั้งโลก การค้ามีสัดส่วนร้อยละ 48 ของการค้าโลก ทำให้ไทยได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจหลายมิติ โดยเฉพาะการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของประชากรเอเปค



          สำหรับการประชุมเอเปคครั้งนี้ได้มีการรวมกลุ่มชุมนุมประท้วงของกลุ่มต่างๆ เพื่อแสดงความเห็น นายธานี ยอมรับว่า เป็นเรื่องปกติของการประชุมระดับเวทีนานาชาติ มีหลายฝ่ายแสดงออกทั้งคัดค้านและมีข้อเสนอแนะในรูปแบบต่างๆ แต่รัฐบาลสามารถที่จะควบคุมดูแลให้อยู่ในสถานการณ์สงบ อีกทั้งยอมรับว่าการประชุมของกลุ่มจี 20 เอเปค และผู้นำอาเซียน คงไม่สามารถเปรียบเทียบจำนวนผู้นำในการเข้าร่วมประชุมแต่ละเวทีได้ ยอมรับว่าผู้นำทุกประเทศให้ความสำคัญส่งผู้นำเข้าร่วมประชุมในการร่วมขับเคลื่อนทางด้านเศรษฐกิจทุกมิติ ลดอุปสรรคทางการค้า และส่งเสริมอำนวยความสะดวกการค้าการลงทุนให้ง่ายขึ้น



          ที่ประชุมมีฉันทามติร่วมกันในการร่างเอกสารเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG เพื่อเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคและระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค สำหรับร่างเอกสารเป้าหมายกรุงเทพฯ 4 เป้าหมาย ประกอบด้วย



1.การจัดการปัญหาสภาพภูมิอากาศ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์



2 การค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน



3.การบริหารจัดการทรัพยากรที่ยั่งยืน และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและ



4.การลดและบริหารจัดการของเสีย



           นอกจากนี้ ยังเห็นชอบแนวทางขับเคลื่อนเป้าหมายกรุงเทพฯ ด้วยการวางกรอบ ระเบียบ และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ การเสริมสร้างศักยภาพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วน



 



 



#เอเปค2022

ข่าวทั้งหมด

X