การจัดเวทีคู่ขนานกับการประชุมเอเปค 2022 คือ การประชุมทางวิชาการ APEC University Leaders’ Forum 2022 (AULF) หัวข้อ “Preventing the Next Pandemic-The Global Partnership Agenda: Government, Business and Research University จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสมาคมมหาวิทยาลัยภาคพื้นแปซิฟิก (Association of Pacific Rim University: APRU) กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมทั้งมีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำ ผู้กำหนดนโยบายในหลากหลายประเทศ อธิการบดีจาก 20 มหาวิทยาลัยทั่วโลก เข้าร่วมงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ และการศึกษาของไทยกับภูมิภาคทั่วโลก สอดคล้องกับแนวคิดหลักในการประชุมเอเปค 2022 คือ “Open. Connect. Balance เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเปิดการประชุม นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า เป็นเวทีในการแบ่งปันประสบการณ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ การประชุมฯ ยังขยายความสำคัญไปถึงการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัย เพื่อยกระดับองค์ความรู้ใหม่ โดยเฉพาะองค์ความรู้ด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวกับการทำวิจัยชีวการแพทย์ การบำบัดโรค และการพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์ ที่พร้อมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ ตลอดจนการนำงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเกิดผลเป็นรูปธรรมสำหรับประชาชนอย่างทั่วถึง นายกรัฐมนตรี หวังว่า การประชุมฯ ในวันนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาในทุกมิติ โดยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นรากฐานสำคัญ นำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของทุกประเทศในภูมิภาคอย่างสมดุลและยั่งยืนต่อไป
วิกฤตสาธารณสุขที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าความถูกต้องของข้อมูล การเผยแพร่/รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ซึ่งภาคการศึกษาเป็นกำลังสำคัญในการชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องทางวิชาการแก่สังคม นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างกันเป็นหัวใจสำคัญในการนำพาประเทศก้าวผ่านวิกฤต ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลก และนานาประเทศในการดำเนินนโยบายและมาตรการการควบคุมโควิด-19 รวมถึงการดูแลประชาชน ทำให้องค์การอนามัยโลกเลือกไทยเป็นประเทศต้นแบบในโครงการนำร่อง “การทบทวนการเตรียมความพร้อมกรณีฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า” ความสำเร็จนี้เป็นความภาคภูมิใจที่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงความมุ่งมั่นในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี ยารักษาโรค วัคซีน และเครื่องมือทางการแพทย์กับประเทศต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์สำคัญของการเป็นเจ้าภาพเอเปคในครั้งนี้ คือไทยจะเสนอให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปครับรองเอกสาร ‘เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG’ เพื่อนำแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ของไทยมาเร่งกระบวนการทำงานในเอเปค และวางบรรทัดฐานใหม่ให้เอเปคมุ่งเน้นการสร้างเสริมการค้าการลงทุนควบคู่ไปกับการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน
#เอเปค2022
#เวทีAULF
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/61691
CR:รัฐบาลไทย,ไทยคู่ฟ้า