โฆษกประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกี ในฐานะผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยนับแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ เปิดเผยว่า นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA)และนายเซอร์เก นาริชคิน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองต่างประเทศ ( เอสวีอาร์ ) พบหารือกันที่กรุงอังการา ตุรกี เพื่อหารือประเด็นการที่รัสเซียขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน พร้อมทั้งหารือเรื่องการแลกเปลี่ยนนักโทษชาวอเมริกัน ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯกล่าวหารัสเซียดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม
ด้านรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า การเจรจาครั้งนี้มีขึ้นตามคำร้องจากฝ่ายสหรัฐฯ นับเป็นการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของทั้งสองฝ่ายนับแต่รัสเซียบุกยูเครน
ด้านทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า นายเบิร์นส์ เคยเป็นอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำรัสเซียระหว่างปี 2548-2551 และสามารถพูดภาษารัสเซีย ไม่ได้มุ่งเจรจาขอให้รัสเซียยุติการสู้รบกับยูเครน แต่นายเบิร์นจะส่งสาส์นไปถึงนายนาริชคินเพื่อทราบเรื่องผลกระทบร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น ในกรณีรัสเซียนำอาวุธนิวเคลียร์มาสู้รบกับยูเครน ทั้งเพิ่มความเสี่ยงปะทะกันด้วยอาวุธนิวเคลียร์โดยตรงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบเสถียรภาพและความมั่นคงทั่วยุโรป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวในตุรกีมีขึ้นขณะความเคลื่อนไหวอีกด้านหนึ่งคือ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่เกาะบาหลี อินโดนีเซียเมื่อวาน ซึ่งแถลงการณ์จากทำเนียบขาวและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่าทั้งนายไบเดนและนายสีคัดค้านเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน
ในช่วง 2-3 เดือนมานี้ สหรัฐฯเตือนไม่ให้รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์มาสู้รบในยูเครน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวต่อเวทีประชุมแห่งหนึ่งในกรุงมอสโกว์ในเดือนกันยายน กล่าวหาชาติตะวันตกว่ามุ่งทำลายรัสเซีย ย้ำว่าเขาจะใช้ทุกวิธีการในการปกป้องดินแดนของรัสเซีย ซึ่งหลายฝ่าย มองว่า นายปูตินพูดเป็นนัยว่า รัสเซียพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์มาสู้รบในยูเครน ซึ่งการขู่ในลักษณะเช่นนี้เป็นเรื่องที่สหรัฐฯให้ความสำคัญและแสดงความรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก
#ตุรกี
#ผู้ไกล่เกลี่ย
#ประชุมหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง