ในการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหประชาชาติ ครั้งที่ 12 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าและทบทวนความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ ภายใต้แผนปฏิบัติการปี ค.ศ. 2021-2025 แลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์ รวมทั้งกำหนดทิศทางและเป้าหมายในการดำเนินความร่วมมือระหว่างกันให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันของมหาอำนาจ และวิกฤตการณ์ที่ตามมา เช่น วิกฤตด้านอาหารและพลังงาน เงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้นทั่วโลก รวมถึงความท้าทายอื่น ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงของมนุษย์และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัญหาห่วงโซ่อุปทาน เป็นต้น จึงเห็นว่า อาเซียนและสหประชาชาติควรกระชับความร่วมมือและเสริมสร้างความเกื้อกูลกันมากขึ้น รวมถึงร่วมสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพและความไว้วางใจกัน ทั้งนี้ สหประชาชาติสามารถเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแนวคิด จากการเผชิญหน้ากันมาสู่ความร่วมมือในทุกด้านที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีเสริมสร้างความสงบสุขและเสถียรภาพในทุกภูมิภาค อันเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการเปิดพื้นที่ไปสู่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม นำมาซึ่งความมั่นคง มั่งคั่งของโลกโดยรวม โดยเวทีการประชุมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในภูมิภาคในห้วงเวลานี้ จะเป็นโอกาสอันดีในการเสริมสร้างบรรยากาศของการหันหน้าเข้าหากัน ส่งเสริมความไว้วางใจกัน และหาหนทางลดอุณหภูมิแห่งความขัดแย้ง ซึ่งไทยมุ่งมั่นให้เป็นเวทีเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจโลกและการฟื้นฟูในบริบทโลกหลังโควิด-19
ไทยเห็นว่า การพบกันผ่านเวทีการประชุมเป็นโอกาสดีในการส่งเสริมความไว้ใจกัน ซึ่งในการประชุมเอเปคที่ไทยนั้น ไทยมุ่งหวังให้เป็นเวทีปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ ผ่านหัวข้อหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” เพื่อความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจร่วมกัน
...
#อาเซียน
#ไทย