เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.) เวลา 15.20 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 23 พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ (เมียนมาไม่เข้าร่วม) นายยุน ซ็อก-ยอล (Mr. Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี และเลขาธิการอาเซียน เพื่อทบทวนความร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีในรอบปีที่ผ่านมา กำหนดทิศทางความสัมพันธ์ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น
จากนั้นเวลา 17.15 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือกับ นายยุน ซ็อก ย็อล ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายหลังจากที่ประธานาธิบดียุนฯ เข้ารับตำแหน่ง และยืนยันความพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลีใต้ ขับเคลื่อนความสัมพันธ์สู่ความมั่นคง และยั่งยืน โดยนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเชิญประธานาธิบดีเยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสแรกที่ฝ่ายสะดวก ซึ่งในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่ย่านอิแทวอน
ประธานาธิบดีฯ กล่าวยินดีที่ได้พบหารือกัน และกล่าวขอบคุณพระกรุณาธิคุณสำหรับข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย สารแสดงความเสียใจของนายกรัฐมนตรี รวมถึงจากภาคส่วนต่าง ๆ ของไทย กรณีย่านอิแทวอน เกาหลีใต้จะให้การดูแลและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อย่างเต็มที่
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับไทยและอาเซียน พร้อมเดินหน้าและรักษาความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรที่เก่าแก่ระหว่างกัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ในระดับประชาชนกับประชาชนที่เป็นจุดเชื่อมสำคัญจากการชื่นชอบในวัฒนธรรมของกันและกัน
ผู้นำทั้งสองฝ่ายยังได้หารือประเด็นความร่วมมือที่สนใจร่วมกัน ดังนี้
ผู้นำทั้งสองหวังที่จะได้แลกเปลี่ยนการเยือนในทุก ๆระดับระหว่างกัน ไทยและเกาหลีใต้พร้อมส่งเสริมและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม โดยทั้งสองยินดีที่ทั้งสองประเทศต่างผ่อนคลายมาตรการเดินทางจากสถานการณ์โควิด-19 หวังให้ไทยและเกาหลีใต้จะรื้อฟื้นการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงให้กลับมามีพลวัตอีกครั้ง นอกจากนี้ ไทยและเกาหลีใต้ยินดีที่ความสัมพันธ์ในระดับประชาชนมีความใกล้ชิด โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ช่วยให้ดูแลคนไทยที่ไปทำงานและเดินทางไปท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ด้านรัฐบาลไทยพร้อมดูแลคนเกาหลีใต้ที่อาศัยในไทย และนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ไทยเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเร่งเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เพื่อรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก โดยไทยเร่งผลักดันกลยุทธ์ “3 แกนสร้างอนาคต” ในการพัฒนาประเทศ เน้นการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และภาคการธนาคาร ซึ่งสอดคล้องกับความสนใจ ศักยภาพและจุดแข็งของเกาหลีใต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เชิญเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนมากขึ้นในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และอุตสาหกรรมที่เกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญ ด้านภาคเอกชนเกาหลีใต้หลายบริษัทก็มีความสนใจและหวังที่จะลงทุนใน EEC จึงได้ขอให้ไทยช่วยดูแลภาคเอกชนด้วย
ประเด็นความร่วมมือในอนุภูมิภาค และภูมิภาค ไทยยินดีที่ประธานาธิบดีให้ความสำคัญกับอาเซียน รวมทั้งการสนับสนุนความเป็นแกนกลางของเซียน และสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง โดยเกาหลีใต้ยืนยันพร้อมสนับสนุนความเป็นแกนกลางของเซียน และพร้อมเสริมสร้างความร่วมมือกับอาเซียนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเกาหลีใต้ที่ให้การสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยมาตลอดทั้งปี หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากเกาหลีใต้ต่อไป และไทยพร้อมร่วมมือกับเกาหลีใต้ในกรอบเอเปค และยินดีอย่างยิ่งที่ไทยกับเกาหลีใต้ได้จัดทำแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกันในระยะ 5 ปี (ปี 2565 – 2570) เพื่อสอดประสานยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของทั้งสองฝ่ายต่อไป
....
#อาเซียน
#ไทยเกาหลีใต้