ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่เปิดโอกาสให้เกิดสายพันธุ์ลูกผสมมากนัก เพราะการติดเชื้อจะเป็นทีละตระกูลที่ระบาดไปทั่วโลก จากนั้นจะถูกแทนที่ด้วยอีกตระกูลหนึ่ง แต่ปีที่ 3 กลับพบว่าเกิดโอไมครอนลูกผสมอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดไม่ให้ลูกผสมเหล่านี้กลายพันธุ์จนเกิดเป็นตระกูลใหม่ที่ต่างไปจากตระกูลโอไมครอน ซึ่งยากที่จะทำนายว่าตระกูลใหม่ที่จะอุบัติขึ้นมาจากสายพันธุ์ลูกผสมจะมีการติดเชื้อที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นหรือไม่
โอไมครอนลูกผสม “XBB" ระบาดระลอกใหม่ทั่วโลก ได้รวมตำแหน่งกลายพันธุ์ส่วนหนามจากสายพันธุ์ย่อย BJ.1 และ BM.1.1.1 เข้าด้วยกัน โอไมครอนลูกผสม “XBB” แซงโค้งขึ้นครองอันดับหนึ่งในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน การแพร่ติดต่อ และการดื้อต่อยาฉีดแอนติบอดีสังเคราะห์ ทั้งนี้ สายพันธุ์ย่อยทั้งสองจากฐานข้อมูลโควิดโลก "GISAID" ยังไม่พบในประเทศไทย
จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของโอไมครอน XBB หนึ่งในสมาชิกกลุ่มซุปโอไมครอน (A soup of omicron subvariants) พบมีการกลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสโคโรนา 2019 ดั้งเดิม (อู่ฮั่น) มากที่สุดคือมากกว่า 100 ตำแหน่ง โดยมีการผสมจีโนมบางส่วนที่สร้างหนามแหลม(recombination) ของโอไมครอนสองสายพันธุ์ย่อย คือ BJ.1 และ BM.1.1.1 เข้าด้วยกัน และจากการคำนวณร่วมกับการทดลองในห้องปฏิบัติการ ชี้ว่า ส่วนหนามแหลมที่มีการผสมผสานตำแหน่งกลายพันธุ์ของ BJ.1 และ BM.1.1.1 เข้าด้วยกัน ช่วยให้โอไมครอนลูกผสม XBB สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันและแพร่ติดต่อได้ดีเป็นอันดับหนึ่งในสหรัฐฯ รวมทั้งดื้อต่อยาฉีดแอนติบอดีสำเร็จรูปเกือบทุกประเภท




จากฐานข้อมูลโควิดโลก (GISAID) พบสายพันธุ์ย่อย XBB มีการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกิดสมาชิกย่อยขึ้นมากมาย คือ
XBB.1.1 (30.56%)
XBB.1 (23.23%)
XBB (22.95%)
XBB.3 (12.43%)
XBB.2 (6.34%)
XBB.5 (2.58%) กลายพันธุ์ต่างไปจากไวรัสโคโรนา 2019 ดั้งเดิม (อู่ฮั่น) มากที่สุด คือมากกว่า 120 ตำแหน่ง (ภาพ1)
XBB.3.1 (0.78%)
XBB.1.3 (0.60%)
XBB.4 (0.32%)
XBB.1.2 (0.21%)

จากฐานข้อมูลโควิดโลก (GISAID) เช่นกันพบโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XBB ระบาดไปทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เดนมาร์ก แคนาดา อิสราเอล มาเลเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ฯลฯ ยังไม่พบในประเทศไทย
-สิงคโปร์ 980 ราย (10.849 %)
-อินเดีย 563 ราย (1.622%)
-ออสเตรเลีย 227 ราย (0.436%)
-สหรัฐฯ 197 ราย (0.026%)
-อังกฤษ 122 ราย (0.078%)
-ออสเตรีย 112 ราย (0.157%)
-เดนมาร์ก 111 ราย (0.125%)
-บังกลาเทศ 88 ราย (17.495%)
-บรูไน 52 ราย (3.002%)
-อิสราเอล 48 ราย (0.085%)
-เยอรมนี 38 ราย (0.022%)
-แคนาดา 34 ราย (0.040%)
-ญี่ปุ่น 33 ราย (0.022%)
-เบลเยียม 27 ราย (0.094%)
-เกาหลีใต้ 22 ราย (0.058%)
-ฟิลิปปินส์ 20 ราย (0.509%)
-มาเลเซีย 19 ราย (0.224%)
-อินโดนีเซีย 18 (0.132%)
-ฝรั่งเศส 16 ราย (0.015%)
-สวีเดน 12 ราย (0.046%)
-เนเธอร์แลนด์ 11 ราย (0.047%)
-อิตาลี 11 ราย (0.046%)
-สวิตเซอร์แลนด์ 10 ราย (0.081%)
-ฮ่องกง 10 ราย (0.400%)
-กัมพูชา 1 ราย (0.197%)
ไวรัสโคโรนา 2019 ลูกผสมเกิดขึ้น เนื่องจาก ในร่างกายผู้ติดเชื้อมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สองสายพันธุ์พร้อมกัน เช่นในกรณีของ “เดลตาครอน” ซึ่งเกิดเป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ “เดลตา” และ “โอไมครอน”
#โอไมครอนลูกผสมXBB
CR:Center for Medical Genomics
ข่าวทั้งหมด