เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ 1,990 ลบ.ม./วินาที ตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มที่ปทุมฯ

          การบริการจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน มีความจำเป็นต้องปรับปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเป็นอัตราประมาณ 1,990 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เมื่อวานนี้(18 ก.ย.65) เวลาประมาณ 17.00 น. หลังจากนั้นจะคงอัตราเดิมอย่างต่อเนื่อง

         กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ช่วงวันที่ 18,21-24 ก.ย.65 คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำเหนือจากแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนไหลมาสมทบกับแม่น้ำสะเเกกรังและลำน้ำสาขาลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ในระยะนี้ได้เตรียมการพร่องลดระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยารองรับน้ำเหนือ

         กรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาและปริมาณน้ำที่ไหลลงมาจากพื้นที่ตอนบน เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทยให้เร็วที่สุด

         นอกจากนี้ กรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม บริเวณประตูระบายน้ำกลางคลอง 12-13 เร่งระบายน้ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาอีกในระยะต่อไป นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบหมายให้สำนักเครื่องจักรกล ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 30 นิ้ว จํานวน 2 เครื่อง บริเวณประตูระบายน้ำกลางคลอง 12 และ 13 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเร่งระบายน้ำไว้ กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำบริเวณพื้นที่ตอนบนของกรุงเทพมหานคร ด้วยการระบายน้ำและสูบน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ด้านฝั่งคลอง 12 มาทางคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ฝั่งคลอง 13 เพื่อระบายน้ำส่วนหนึ่งไปลงแม่น้ำนครนายก อีกส่วนหนึ่งระบายลงคลอง 13 ก่อนลำเลียงสู่คลองพระองค์ไชยานุชิต และใช้สถานีสูบน้ำริมคลองชายทะเลสูบระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยตามลำดับ

#เพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา

#ตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มที่ปทุมธานี

CR:ข้อมูล-ภาพ กรมชลประทาน