ผู้นำสหรัฐฯคัดค้านจีนใช้กำลังทหารคุกคามสันติภาพของไต้หวัน

         การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯกับประธานานาธิบดีสี จิ้นผิงของประเทศจีน ซึ่งเริ่มเวลา 07.45 น.ตามเวลาวันนี้ของประเทศจีน สิ้นสุดการประชุมในเวลา 12.29 น.ตามเวลาท้องถิ่น

         ผู้นำทั้งสองพูดคุยหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องไต้หวัน บีบีซี รายงานว่า นายไบเดน บอกกับผู้นำจีนว่าสหรัฐฯคัดค้านความพยายามของประเทศจีน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงสถานะในปัจจุบัน เช่น รูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไต้หวัน หรือการใช้กำลังทางทหารในลักษณะคุกคามสันติภาพและความมั่นคง เช่น การซ้อมรบใกล้บริเวณช่องแคบไต้หวัน

         ในประเด็นนี้ นายสี พูดในทำนองเตือนนายไบเดนว่า สหรัฐฯให้การสนับสนุนการเรียกร้องเอกราชของไต้หวัน พร้อมทั้งพูดในเชิงอุปมาว่าการกระทำของสหรัฐฯ เปรียบเสมือนกับเล่นกับไฟ ระบุว่า สุดท้าย คนที่เล่นกับไฟย่อมจะพลอยเดือดร้อน ถูกไฟไหม้นิ้วมือด้วย       

         ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ชี้แจงในแถลงการณ์ว่า รัฐบาลของนายไบเดน ให้คำมั่นจะยึดมั่นต่อนโยบายจีนเดียว(One China policy)ที่สหรัฐฯได้ปฏิบัติมายาวนาน ซึ่งภายใต้หลักการนี้ สหรัฐฯจะติดต่อสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนโดยตรง แทนที่จะติดต่อสัมพันธ์กับไต้หวัน ซึ่งจีนถือเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่งของจีนที่แยกตัวไปและจะต้องถูกผนวกเข้ามาเป็นมณฑลหนึ่งของจีนในอนาคต

         แต่บีบีซีตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯมีกฏหมายว่าด้วยความสัมพันธ์กับไต้หวัน ซึ่งมีข้อกำหนดให้สหรัฐฯช่วยปกป้องไต้หวันในกรณีถูกโจมตีจากประเทศจีน อีกทั้งนายไบเดนพูดเมื่อเดือนก่อนว่า สหรัฐฯพร้อมจะปกป้องไต้หวัน ถ้าประเทศจีนโจมตีเกาะไต้หวัน ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองท่าทีของนายไบเดนว่า ดูเหมือนจะสวนทางกับนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯยึดถือมานานคือ นโยบายจีนเดียว อีกทั้งเป็นท่าทีที่สร้างความอึมครึม หรือความไม่ชัดเจนในเชิงยุทธศาสตร์ และจะเป็นปมปัญหาที่จะกระทบสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนต่อไปในอนาคต

         นอกจากนั้น ผู้นำทั้งสองได้พูดเรื่องอื่นๆที่ถูกหลายฝ่ายทักท้วง เช่น การปฏิบัติของจีนต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงทางภาคตะวันตกของจีนและการปราบปรามผู้ประท้วงในฮ่องกง

#ประชุมสหรัฐฯจีน

#นโยบายไต้หวัน