เวียดนาม อนุมัติ ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ แอสตร้าฯ-ไฟเซอร์

          การให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สลับยี่ห้อ ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม จะอนุญาตให้ดำเนินการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อระหว่างวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากับวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค โดยจะเสนอให้วัคซีนไฟเซอร์เป็นตัวเลือกเข็มที่ 2 สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก โดยกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 หลังจากฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วประมาณ 8-12 สัปดาห์ แนวทางปฏิบัตินี้จะดำเนินการกับผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนที่ยินยอมเท่านั้น ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตาม จะได้รับการจัดลำดับความสำคัญให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เช่นเดียวกัน

          ขณะนี้ เวียดนามได้รับวัคซีนไฟเซอร์มาแล้ว 97,000 โดส จาก 745,000 โดส ซึ่งวัคซีนที่เหลือจะมาถึงประเทศภายในเดือนนี้ แต่ยังไม่มีการยืนยันวันที่แน่นอน นับเป็นครั้งแรกที่เวียดนามอนุญาตให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สลับยี่ห้อ แม้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหลายประเทศแล้วก็ตาม เช่น แคนาดา สเปน และเกาหลีใต้ ที่อนุมัติการสลับวัคซีน โดยเหตุผลส่วนใหญ่มาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เชื่อมโยงกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

          ส่วนการศึกษาของสเปนพบว่าการใช้วัคซีนผสมระหว่างไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ตามผลการวิจัยเบื้องต้น

          ขณะที่อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเป็นเข็มที่สองในเดือนมิ.ย. หลังจากฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรกผ่านไปแล้ว 2 เดือน

          อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกได้เตือนว่าการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อเป็นเทรนด์ที่อันตราย เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลรองรับเพียงพอเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ ตามรายงานของรอยเตอร์

       เวียดนามพยายามที่จะเร่งการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนท่ามกลางสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูง โดยในช่วงก่อนเดือนพ.ค. 2564 เวียดนามมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมไม่ถึง 3,000 คน แต่เวลานี้ประเทศมีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 34,500 คน และมีผู้เสียชีวิต 130 ราย เวียดนาม จะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1.5 ล้านโดส ที่ออสเตรเลียบริจาคให้ในเร็วๆ นี้ และจะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจากญี่ปุ่นอีก 1 ล้านโดสในสัปดาห์นี้