ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันพุธที่ 11 ธันวาคม 2562

11 ธันวาคม 2562, 05:26น.


ผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัส บาดแผลไฟไหม้ สำลักควัน ภูเขาไฟในนิวซีแลนด์ปะทุ



          ความคืบหน้าเหตุภูเขาไฟบนเกาะไวท์ นิวซีแลนด์ ที่เกิดเหตุปะทุ เมื่อวันอังคาร พบว่ามีคนเสียชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งศพรวม 6 ศพ มีคนสูญหาย 8 คน ตำรวจคาดว่า เสียชีวิตแล้ว และมีผู้บาดเจ็บ 31 คน อายุระหว่าง 13-72 ปี นายพีท วัตสัน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บ 27 คน จากทั้งหมด 31 คน มีบาดแผลไฟไหม้ตามร่างกายร้อยละ 30 ขณะที่บางรายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจาก มีอาการสำลักควัน ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุข ระดมแพทย์จากทั่วประเทศ โดยเฉพาะแพทย์ที่เกี่ยวข้องด้านการรักษาบาดแผลไฟไหม้ ให้มาช่วยรักษาผู้บาดเจ็บกลุ่มนี้ เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บสาหัสหลายคน ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มอีก



ชายชาวเช็กที่ก่อเหตุยิงคนในโรงพยาบาล ใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิต



          หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันอังคาร เกิดเหตุชายวัย 42 ปี ชาวเช็ก ใช้ปืนเดินจ่อยิงประชาชน ภายในห้องโถงรับแขก แผนกผู้ป่วยฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเมืองออสตราวา ทางตะวันออกของเช็ก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ เป็นผู้ชาย 4 ศพ ผู้หญิง 2 ศพ และได้รับบาดเจ็บ 3 คน  2 คนอาการสาหัส หลังเกิดเหตุชายคนร้ายขับรถยนต์ยี่ห้อเรโนลต์ ลากูนา สีเงิน หลบหนีไป โดยมีตำรวจกว่า 100 นายขับรถยนต์ไล่ติดตาม รวมทั้งใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ติดตามคนร้าย จนในที่สุดคนร้ายเห็นจวนตัว จึงตัดสินใจใช้ปืนยิงศีรษะตนเองภายในรถ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิต



          เมืองออสตราวา เป็นเมืองที่มีประชากร 290,000 คน อยู่ห่างจากกรุงปราก เมืองหลวงไปทางทิศตะวันออก 350 กิโลเมตร ใกล้เขตแดนโปแลนด์ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจของการก่อเหตุ



          ขณะที่ นายยาน ฮามาเซค รัฐมนตรีมหาดไทยเช็ก เปิดเผยว่า คนร้ายชื่อ นายซีรัด ไวตาเซค อาชีพช่างก่อสร้างของบริษัทเอซี-อินเตอร์กริปส์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโอปาวา ติดกับเมืองออสตราวาทางตะวันออกเฉียงเหนือ



          ด้านนายอเลส ซกูลา ประธานบริษัทเอซี-อินเตอร์กริปส์ เปิดเผยว่า นายไวตาเซค ขอลาป่วยรักษาตัว ในระยะ 1 เดือนครึ่ง และนายไวตาเซค เคยบอกว่า เขาป่วยหนักมาก และไม่มีใครที่โรงพยาบาลให้ความสนใจ หรือต้องการรักษาเขา



ญี่ปุ่น จะลดภาษีสินค้าเกษตรนำเข้าจากสหรัฐฯ เริ่มมีผล 1 ม.ค.2563



          หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่น แถลงว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ญี่ปุ่นตกลงจะลดภาษีสินค้านำเข้าสำหรับสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ แต่ในอัตราที่น้อยกว่าที่ญี่ปุ่นลดภาษีให้ประเทศคู่ค้าภายใต้ข้อตกลงความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ขณะเดียวกัน ผู้นำญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ตกลงว่าสหรัฐฯจะไม่ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นต้องการจะให้สหรัฐฯยกเลิกภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทั้งหมด ในประเด็นนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงจะเจรจากันให้เสร็จภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่ข้อตกลงเริ่มมีผลบังคับใช้



เจ้าหน้าที่จีน เผยซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯมากขึ้น



          การหารือข้อพิพาททางการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีน นายจ้าง เสี่ยวผิง ผู้อำนวยการสภาการส่งออกถั่วเหลืองสหรัฐฯประจำภูมิภาคจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน กล่าวว่า ในช่วงเดือนกันยายน -พฤศจิกายน จีนนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯมากขึ้น 13 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นายจ้าง กล่าวว่า ถั่วเหลืองที่จีนซื้อทั้งหมดในปีนี้ ได้ผ่านช่องทางการทำข้อตกลงพิเศษ ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีน ระบุว่า จีนได้นำเข้าถั่วเหลืองในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.9 มาที่ระดับร้อยละ 8.278 ล้านตัน เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม เนื่องจากเมื่อช่วงครึ่งหลังปีที่แล้ว การส่งออกถั่วเหลืองจากสหรัฐฯไปจีนลดลงอย่างมาก หลังจากที่จีนประกาศปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าถั่วเหลืองเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ



ผู้นำเกาหลีใต้ เดินหน้าปลดอาวุธนิวเคลียร์ เตรียมหารือร่วมกับผู้นำญี่ปุ่น-จีน  



          นายโก มินจุง โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ รายงานว่า ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ จะเดินทางไปเยือนเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน 2 วัน เริ่มจากวันที่ 23 ธันวาคมนี้ เพื่อร่วมประชุมสุดยอดกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของประเทศจีน และนายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะของญี่ปุ่น โฆษกรัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุว่า ผู้นำทั้ง 3 คน จะปรึกษาหารือเรื่องแนวทางเพิ่มความร่วมมือระหว่างทั้งสามประเทศและลงลึกรายละเอียดเรื่องการสร้างความมั่นคงในภูมิภาค นายมุน พร้อมกับผู้นำจีนและญี่ปุ่นจะประเมินสถานการณ์ความมั่นคงครั้งล่าสุดบนคาบสมุทรเกาหลีเพื่อผลักดันให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีและช่วยให้เกิดสันติภาพอย่างถาวร



สภาฯสหรัฐฯ เตรียมลงมติถอดถอน ‘ทรัมป์’ ใช้อำนาจมิชอบ-ขัดขวางสภาคองเกรส



          หลังจากที่เมื่อเดือนตุลาคม นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ หลังจากมีรายงานว่านายทรัมป์ สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ยื่นถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งใน 2 ข้อหา ได้แก่ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสภาคองเกรส



          ล่าสุด ในวันพรุ่งนี้ คณะกรรมาธิการตุลาการจะลงมติต่อญัตติดังกล่าว ขณะที่สัปดาห์หน้าสภาผู้แทนราษฎรจะมีการลงมติ นางสเตฟานีี กริสแชม โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะชี้แจงต่อวุฒิสภา ยืนยันว่า ข้อหาไม่มีมูลความจริง และหวังว่าวุฒิสภาจะตัดสินให้พ้นผิด เนื่องจากไม่ได้ทำสิ่งใดผิด



CR:BBC,Reuters



 



 

ข่าวทั้งหมด

X