สทนช.ย้ำเกษตรกร ไม่ควรทำนาปรัง แหล่งเก็บน้ำขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ มีปัญหาน้ำน้อยมากกว่า70แห่ง

          การติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ภัยแล้ง ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)ออกมาตรการไปแล้วแต่ยังไม่มีแผนปฎิบัติงานที่ชัดเจน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม ได้มอบให้ทุกพื้นที่จัดทำแผนรองรับและจัดสรรบุคคลดูแลอย่างชัดเจน คาดว่า ในสัปดาห์หน้า จะรายงานผลกลับมาอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำบาดาลช่วยในเรื่องของน้ำ อุปโภค-บริโภค ในพื้นที่ภัยแล้ง

          ขณะที่ด้านการเกษตรขณะนี้อยู่ในช่วงของการทำนาปี กว่า 1 ล้านไร่ ต่อเนื่องการทำนาปรังที่มีมากกว่า 1 ล้านไร่ จึงต้องมุ่งเน้นเรื่องของการทำประชาสัมพันธ์และหาแผนรับมือในทุกเขื่อนจะต้องมีแผนการบริหารจัดการน้ำรายสัปดาห์พร้อมประสานไปยังจังหวัดและเครือข่ายผู้ใช้น้ำประจำจังหวัด ที่ประชุมยังเป็นห่วงการบริหารจัดการน้ำของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นเดียวกับ พื้นที่ภาคกลาง ที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลในเรื่องการผลักดันน้ำเค็ม

          นอกจากนี้ จากข้อมูลล่าสุด มี 38 จังหวัดทั่วประเทศ ที่มีปัญหาน้ำน้อย ขณะที่แหล่งเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ มีปัญหาน้ำน้อยมากกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ จากนี้จะลงพื้นที่ดูแลในทุกจังหวัด พล.อ.ประวิตร ย้ำในที่ประชุม ให้ทุกจังหวัดมีผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจนป้องกันการเสียประโยชน์ของประชาชน และในวันพรุ่งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะประชุมวางแผนรับมือการทำนาปรังของเกษตรกรให้น้อยที่สุดเพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการอุปโภค-บริโภค ยืนยันว่า สทนช. ไม่สนับสนุนให้เกษตรกรทำนาปรังภาคกลางและตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ เนื่องจากเหลือปริมาณน้ำน้อยมาก ยกเว้นแต่พื้นที่ที่มีน้ำเพียงพอสามารถทำได้

          นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังเป็นห่วงสถานการณ์แม่น้ำโขงที่ลดต่ำลงมามาก 2-3 เมตร ในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน โดยมีแนวทางแก้ไขทั้งในและต่างประเทศ ที่ให้กระทรวงมหาดไทย และแต่ละจังหวัดแจ้งประชาชนทราบทันที พร้อมให้ สทนช.ดำเนินการระหว่างประเทศ ใช้การดำเนินการผ่านกลุ่มแม่โขงล้านช้าง และคณะกรรมการแม่น้ำโขง ที่จะประชุมในประเทศกัมพูชาระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายน และ วันที่ 10 ธันวาคม ก็จะมีประชุมระดับรัฐมนตรีที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเจรจาในกรณีจำเป็นจะขอให้ประเทศต้นน้ำปล่อยน้ำลงมามากขึ้น